ใครเสี่ยงเป็นนิ่วในถุงน้ำดี? เช็กพฤติกรรมเสี่ยงก่อนสาย!

เคยมีอาการแน่นท้อง จุกเสียดหลังกินของทอดไหม? หรือบางวันรู้สึกอืดแน่น จนต้องหยุดพัก?
หลายคนอาจคิดว่าเป็นแค่โรคกระเพาะ หรืออาหารไม่ย่อย แต่ในความเป็นจริง อาการเหล่านี้อาจกำลังส่งสัญญาณถึงโรค “นิ่วในถุงน้ำดี” ที่คุณไม่รู้ตัวก็ได้
แม้นิ่วในถุงน้ำดีจะไม่แสดงอาการในช่วงแรก แต่เมื่อเริ่มมีอาการ มักมาแบบเฉียบพลัน ปวดรุนแรง ติดเชื้อ และอาจต้องผ่าตัดฉุกเฉินทันที ดังนั้น หากรู้ว่าตัวเองมีพฤติกรรมเสี่ยง…ยิ่งรู้เร็ว ก็ยิ่งดูแลได้ทัน

คนแบบไหนเสี่ยง? พฤติกรรมแบบนี้…ให้รีบเช็ก!

นิ่วในถุงน้ำดีมักพบในกลุ่มผู้หญิงวัย 40+ และคนที่มีพฤติกรรมบางอย่างโดยไม่รู้ตัว เช่น
• กินของทอด ของมันเป็นประจำ
• ดื่มน้ำน้อยกว่า 6 แก้ว/วัน
• ไม่ค่อยออกกำลังกาย
• เคยลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
• ข้ามมื้ออาหาร หรือกินมื้อหนักทีเดียว
• มีประวัติคนในครอบครัวเป็นนิ่ว
• มีอาการแน่นท้องหลังอาหารบ่อย ๆ
หากคุณมี 3 ข้อขึ้นไป แนะนำให้เข้ารับการตรวจเพื่อประเมินความเสี่ยงก่อนสาย

กลุ่มไหนต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ?

นิ่วในถุงน้ำดีสามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย แต่กลุ่มที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ ได้แก่
    • ผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไป (เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเอสโตรเจน)
    • คนที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วนลงพุง
    • ผู้ที่ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เช่น จากการอดอาหาร
    • ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง หรือดื่มน้ำน้อยเรื้อรัง

ถ้ามีความเสี่ยง…ต้องทำอย่างไร?

หากคุณรู้ว่าตัวเองเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง ยังสามารถป้องกันและดูแลตัวเองได้ ดังนี้
    • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด เนื้อสัตว์ติดมัน
    • ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6–8 แก้ว
    • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
    • รับประทานอาหารให้เป็นเวลา ไม่ข้ามมื้อ
    • หลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักอย่างหักโหม
    • ตรวจสุขภาพทางเดินอาหารปีละครั้ง หากเคยมีอาการจุกแน่นเรื้อรัง

ข้อแนะนำสำคัญจากแพทย์

“นิ่วในถุงน้ำดีอาจอยู่เงียบ ๆ ได้เป็นปี แต่เมื่อเริ่มแสดงอาการ มักปวดรุนแรงจนต้องเข้าผ่าตัดแบบฉุกเฉิน การรู้ตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้คุณวางแผนรักษาได้อย่างปลอดภัยและฟื้นตัวเร็วกว่าเดิมมากค่ะ”

ศูนย์ศัลยกรรม
โทร. 0-2265-7777