• banner

ข้อสะโพกใหม่ ชีวิตใหม่ การเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมที่พลิกชีวิตคุณ

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม เป็นหนึ่งในหัตถการทางศัลยกรรมกระดูกที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งในด้านความปลอดภัยและประสิทธิผลต่อการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ป่วย เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะข้อสะโพกเสื่อมขั้นรุนแรงหรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจนกระทบการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน การผ่าตัดนี้ช่วยลดอาการปวด ฟื้นฟูสมรรถภาพการเคลื่อนไหว และเพิ่มคุณภาพชีวิตในระยะยาว

อาการและสัญญาณบ่งชี้ปัญหาข้อสะโพก

ปัญหาข้อสะโพกมักพัฒนาค่อยเป็นค่อยไป สัญญาณที่พบได้บ่อย ได้แก่
  • ปวดบริเวณขาหนีบหรือด้านนอกของสะโพก โดยเฉพาะเมื่อเดินหรือยืนเป็นเวลานาน
  • เคลื่อนไหวสะโพกติดขัด รู้สึกฝืดเมื่อขยับ
  • อาการปวดลามลงไปยังต้นขาหรือเข่า
  • คุณภาพชีวิตลดลง ไม่สามารถทำกิจกรรมเดิม ๆ ได้ เช่น ขึ้นบันได นั่งยอง ๆ หรือออกกำลังกาย
  • ต้องใช้ยาแก้ปวดเป็นประจำหรือเพิ่มขนาดยามากขึ้นเรื่อย ๆ
หากอาการเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบอนุรักษ์นิยม (เช่น ยาแก้ปวด กายภาพบำบัด ฉีดยา) อาจถึงเวลาที่แพทย์จะแนะนำให้พิจารณาการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก

เหตุผลที่การเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมอาจเป็นคำตอบ

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม (Total Hip Arthroplasty, THA) มีข้อมูลสนับสนุนชัดเจนในเรื่องผลลัพธ์ ได้แก่
  • ลดอาการปวดได้อย่างมีนัยสำคัญ
  • เพิ่มสมรรถภาพการเคลื่อนไหว เช่น เดิน ขึ้นบันได หรือทำกิจกรรมเบา ๆ
  • อายุการใช้งานข้อสะโพกเทียมเฉลี่ย 15–20 ปี ขึ้นอยู่กับวัสดุ เทคนิค และการดูแล
  • งานวิจัยระดับนานาชาติระบุว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่มีความพึงพอใจสูงและกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น

ขั้นตอนการรักษาและการเตรียมตัว

ช่วงก่อนผ่าตัด

  • ตรวจประเมินสุขภาพทั่วไปและโรคร่วม (เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง)
  • ตรวจภาพรังสีเพื่อประเมินสภาพข้อสะโพกและวางแผนตำแหน่งข้อเทียม
  • ปรับพฤติกรรม เช่น ลดน้ำหนัก ออกกำลังกายกล้ามเนื้อรอบสะโพก
  • อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงกระบวนการผ่าตัด ผลลัพธ์ และการฟื้นฟูหลังผ่าตัด

ระหว่างผ่าตัด

  • เลือกแนวทางผ่าตัดตามความเหมาะสม เช่น ด้านหน้า ด้านหลัง หรือแผลเล็ก
  • ใช้วัสดุข้อเทียมที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย เช่น โลหะ เซรามิก หรือโพลีเอทิลีน
  • ในบางศูนย์ใช้เทคโนโลยีช่วยนำทางหรือแขนกลช่วยผ่าตัดเพื่อความแม่นยำ


หลังผ่าตัดและการฟื้นฟู

  • เริ่มเดินภายใต้การดูแลของทีมแพทย์และกายภาพบำบัดภายใน 24 ชั่วโมงถ้าไม่มีข้อห้าม
  • ทำกายภาพบำบัดตามโปรแกรมที่ออกแบบเฉพาะราย
  • ปรับท่าทางการนั่ง นอน และกิจกรรมในชีวิตประจำวันเพื่อลดความเสี่ยงข้อสะโพกหลุด
  • ตรวจติดตามอาการและภาพรังสีตามนัด

หลักการฟื้นฟูและดูแลตนเองหลังผ่าตัด

การฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ข้อสะโพกเทียมใช้งานได้ยาวนานและลดภาวะแทรกซ้อน คำแนะนำหลักได้แก่
  • ทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอ เสริมความแข็งแรงกล้ามเนื้อสะโพก ต้นขา และแกนกลางลำตัว
  • หลีกเลี่ยงการบิดหรือหมุนสะโพกมากเกินในช่วง 3–6 เดือนแรก
  • รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม
  • ใช้อุปกรณ์ช่วยเดินหากแพทย์แนะนำในช่วงฟื้นตัว
  • เข้ารับการตรวจติดตามตามกำหนด


ความปลอดภัยและผลลัพธ์ระยะยาว

แม้การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกจะเป็นหัตถการมาตรฐานที่มีอัตราความสำเร็จสูง แต่ผลลัพธ์ในระยะยาวขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เทคนิคของแพทย์ วัสดุข้อเทียม สภาพร่างกายผู้ป่วย และการปฏิบัติตามคำแนะนำหลังผ่าตัด การดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ “ข้อสะโพกใหม่” อยู่กับคุณได้ยาวนาน

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมสามารถคืนความสามารถในการเคลื่อนไหว ลดอาการปวด และฟื้นฟูคุณภาพชีวิตได้อย่างชัดเจน เมื่อคุณเข้าใจขั้นตอนและการดูแลที่ถูกต้อง คุณก็สามารถตัดสินใจร่วมกับแพทย์ได้อย่างมั่นใจ หากคุณมีอาการปวดสะโพกหรือสงสัยว่าตนเองมีปัญหาข้อสะโพก สามารถนัดหมายเพื่อตรวจประเมินกับแพทย์เฉพาะทางได้ทันที การประเมินตั้งแต่เนิ่น ๆ ช่วยให้เลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ศูนย์โรคกระดูกและข้อ
โทร. 0-2265-7777
Medical Center: Bone and Joint Center
Publish date desc: 05/10/2025

Author doctor

Dr. Chittawee Jiamton

img

Specialty

Orthopaedic Surgeon

Other Specialty

-

Language Spoken

Thai, English

Contact us

Other program