
อาการปวดหลัง มักเกิดจากพฤติกรรม เช่น นั่งมากเกินไป ยกของหนัก หรือออกกำลังกายมากเกิน ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ส่งผลให้เกิดอาการปวดหลัง แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีอาการปวดในระดับเดียวกันเรามาสังเกตกันดีกว่าค่ะว่าอาการปวดหลังแต่ละแบบนั้น เป็นสัญญาณเตือนความผิดปกติของร่างกายหรือโรคต่างๆ อะไรบ้าง ตามไปดูกันค่ะ
- ปวดหลังเหนือบั้นเอวทั้งสองข้าง มักเกิดจากความผิดปกติภายใน เช่น โรคไต โรคนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งหากปล่อยทิ้งเอาไว้นานๆ อาจจะทำให้เกิดภาวะไตติดเชื้อ หรือไตวายได้
- ปวดหลังเรื้อรัง หากมีอาการปวดหลังเป็น ๆ หาย ๆ อาจเป็นอาการของโรคออฟฟิศซินโดรม ส่วนใหญ่เป็นอาการที่เกิดจากการอักเสบและเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดอาการปวดคอ ปวดตามตัว รวมถึงการปวดหลังเรื้อรังตามมา
- ปวดหลังร่วมกับอาการไข้ กระดูกสันหลังหรือหมอนรองกระดูกสันหลังติดเชื้อ เชื้อโรคจะทำให้โครงสร้างเสียหายเลยทำให้ปวดหลัง อาการปวดจะมากขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหว นั่ง ยืน หรือติดเชื้ออวัยวะที่อยู่ติดทางด้านหลัง เช่น ติดเชื้อที่ไต อวัยวะในช่องท้อง เป็นต้น
- ปวดหลังร้าวลงขา ไอ จามจะยิ่งปวด โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เกิดจากเจลในหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นออกมาไปกดทับเส้นประสาทไขสันหลัง หรือรากประสาท มีสาเหตุมาจากนั่งทำงานอยู่ในท่านั่งเดิมเป็นเวลานานแล้วไม่ค่อยได้เปลี่ยนอิริยาบถ การก้ม ๆ เงย ๆ ยกของหนัก รวมถึงความเสื่อมตามธรรมชาติ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหลังรุนแรง ปวดมากจนไม่อาจขยับตัวได้ รวมไปถึงอาการอื่น ๆ เช่น ทรงตัวได้ไม่ดี ขาแข็งเกร็ง อาการชา ขาอ่อนแรง ร่วมด้วย
- ปวดหลังแบบกว้างๆ ก้มหรือแอ่นหลังไม่ได้ โรคกล้ามเนื้อหลังอักเสบเฉียบพลัน โรคนี้ไม่ได้เกิดหรือเกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลังโดยตรง แต่เป็นที่กล้ามเนื้อหลังโดยเฉพาะ เกิดจากการที่กล้ามเนื้อหลังถูกใช้งานมากเกินไป เช่น เล่นกีฬาอย่างหนัก เกิดอุบัติเหตุโดนกระแทกที่หลัง โดยอาการที่พบจะปวดเกร็งหลัง ปวดตึงหลัง จนต้องแอ่นหลังตลอดเวลา รู้สึกปวดหลังแบบกว้างๆ ระบุตำแหน่งชัดเจนไม่ได้
หากมีอาการปวดหลังเรื้อรังเป็นเวลานานกว่า 4 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ และรับการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2265 7777
[คะแนนบทความนี้: 3]