
ปัสสาวะเป็นเลือดอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะผิดปกติที่ร้ายแรงและโรคมะเร็งบางชนิดได้มักจะไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดหรือไม่แสดงอาการอื่นใด แต่หากมีลิ่มเลือดปนออกมากับปัสสาวะก็อาจทำให้เกิดความเจ็บปวดที่ท้องน้อย หรือหลังได้ อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ
ปัสสาวะเป็นเลือด เป็นอาการเมื่อถ่ายปัสสาวะแล้วมีเม็ดเลือดแดงปนมาพร้อมกับปัสสาวะ บางครั้งสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าชัดเจนหรือบางครั้งก็ไม่สามารถมองเห็นได้ ปัสสาวะที่มีเลือดปนอาจบ่งบอกได้ถึงโรคหรือความผิดปกติที่รุนแรง หากพบว่าตนเองปัสสาวะออกมาเป็นเลือดหรือปัสสาวะเป็นสีที่ผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์เพื่อได้รับการวินิจฉัยหาสาเหตุและรักษา
การที่มีเม็ดเลือดแดงปนออกมากับปัสสาวะ สามารถแบ่งได้ 2 ชนิด คือ ปัสสาวะเป็นเลือดที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ส่วนอีกชนิดคือ ปัสสาวะเป็นเลือดที่ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องดูจึงจะมองเห็น ซึ่งผู้ป่วยจะเห็นปัสสาวะเป็นสีเหลืองใสเหมือนปกติ ทั้งสองกรณีจึงจำเป็นต้องได้รับการตรวจเพื่อสาเหตุต่อไป
อาการ
อาการหลัก คือ ปัสสาวะเปลี่ยนสี อาจเป็นสีชมพู สีแดง สีน้ำตาลเข้ม มักจะไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดหรือไม่แสดงอาการอื่นใด แต่หากมีลิ่มเลือดปนออกมากับปัสสาวะก็อาจทำให้เกิดความเจ็บปวดที่ท้องน้อยหรือหลังได้ นอกจากนั้นอาจมีอาการอื่น ๆ เกิดร่วมด้วย โดยความรุนแรงหรือลักษณะอาการจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุ
สาเหตุ
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เช่น ท่อปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะ
- โรคไตบางชนิด เช่น ไตอักเสบ
- นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ หรือนิ่วในไต
- โรคถุงน้ำในไต
- โรคต่อมลูกหมากโต
- โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
- เนื้องอกหรือมะเร็งที่ไตหรือกระเพาะปัสสาวะ
- คนที่ออกกำลังกายหนักมาก ๆ
อาการปัสสาวะเป็นเลือดอาจเป็นสัญญาณของโรคร้าย จึงควรหมั่นสังเกตปัสสาวะรวมถึงอาการที่พบร่วม หากพบความผิดปกติควรรีบมาพบแพทย์ และควรมารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพราะหากมีความผิดปกติจะได้มีโอกาสรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2265 7777