คู่รักที่มีบุตรยาก ไม่ว่าหญิงหรือชาย พบว่าฝ่ายชายเป็นสาเหตุของการมีบุตรยากได้ร้อยละ 40% ดังนั้นการตรวจอสุจิของฝ่ายชายจึงมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการตรวจของฝ่ายหญิง ว่าแต่การตรวจอสุจิจะดูอะไรบ้างนั้น วันนี้เรามีข้อมูลมาบอกค่ะ
การตรวจวิเคราะห์อสุจิ ถือเป็นวิธีหาสาเหตุของฝ่ายชายที่ทำได้ง่ายและไม่เจ็บตัว เป็นการทดสอบสุขภาพและองค์ประกอบของอสุจิที่ต้องประเมินอย่างรอบคอบ เพื่อนำไปวินิจฉัยและวางแผนการตั้งครรภ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยวิธีการตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจินั้นแบ่งออกเป็น 2 วิธีคือ
- การตรวจด้วยตาเปล่า (Macroscopic Examination) โดยจะดูปริมาตรของน้ำอสุจิ ความเป็นกรด-ด่าง การละลายตัวของอสุจิ และความหนืดของอสุจิ
- การตรวจภายใต้กล้องจุลทรรศน์ (Microscopic Examination) ความเข้มข้นของอสุจิ อัตราการมีชีวิตของอสุจิ รูปร่างของอสุจิ การเคลื่อนที่ของอสุจิ เม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง
คำแนะนำในการเก็บน้ำอสุจิ
- ควรงดการมีเพศสัมพันธ์รวมถึงการหลั่งอสุจิประมาณ 2 – 4 วัน แต่ไม่ควรเกิน 7 วัน
- ล้างมือและอวัยวะเพศให้สะอาดก่อนการเก็บน้ำอสุจิ
- เก็บน้ำอสุจิด้วยวิธีช่วยตัวเอง ( Masturbation )
- ไม่แนะนำให้เก็บโดยใช้ถุงยางอนามัย เนื่องจากถุงยางอนามัยมีสารหล่อลื่น ซึ่งสามารถทำให้อสุจิตายได้
- ระหว่างการเก็บหลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสภายในภาชนะเก็บน้ำเชื้อ
- เก็บน้ำอสุจิใส่ภาชนะที่สะอาดและผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว
- เมื่อเก็บน้ำอสุจิได้แล้วให้นำส่งไปยังทางห้องปฏิบัติการทันที หรือภายใน 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ความถูกต้องและแม่นยำของการตรวจนั้นก็ขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวที่ดีของฝ่ายชาย โดยหลังจากการตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิแล้ว แพทย์จะทำการประเมินภาวะมีบุตรยากและแนะนำแนวทางในการรักษาขั้นต่อไป
[คะแนนบทความนี้: 4]