มะเร็งเต้านม ไม่ได้เริ่มจากก้อนเสมอไป
เมื่อพูดถึงมะเร็งเต้านม หลายคนมักคิดถึง “ก้อนแข็งในเต้านม” เป็นอันดับแรก จนเผลอมองข้ามสัญญาณอื่น ๆ ที่อาจบอกความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ความเข้าใจนี้ทำให้หลายกรณีถูกตรวจพบช้า ทั้งที่จริงแล้วอาการมะเร็งเต้านมไม่ได้เริ่มจากก้อนเสมอไป
2. ตรวจโดยแพทย์ (Clinical Breast Examination: CBE)
3. การตรวจคัดกรองด้วยเครื่องมือ
มะเร็งเต้านมไม่ได้บ่งบอกด้วย “ก้อน” เพียงอย่างเดียว แต่ยังแสดงออกผ่านสัญญาณเล็ก ๆ ที่หลายครั้งถูกมองข้าม หากรู้จักสังเกตและเข้ารับการตรวจตามคำแนะนำ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตรวจพบและรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองสังเกตเต้านมของคุณในวันนี้ หากพบความผิดปกติใด ๆ อย่าปล่อยผ่านไป การใส่ใจร่างกายเป็นการปกป้องสุขภาพของคุณเองในระยะยาว
ศูนย์เต้านม
โทร. 0-2265-7777
อาการที่ไม่ใช่ก้อน แต่ควรใส่ใจ
แม้ก้อนแข็งเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดของมะเร็งเต้านม แต่ก็ไม่ใช่ตัวชี้วัดเดียว สัญญาณอื่นที่ควรสังเกต ได้แก่- หัวนมเปลี่ยนแปลงผิดปกติ เช่น ยุบ หดตัว หรือบอดลงไป
- มีของเหลวไหลจากหัวนม โดยเฉพาะเลือดหรือของเหลวใสที่ไม่สัมพันธ์กับการให้นม
- ผิวหนังเต้านมเปลี่ยนแปลง มีลักษณะบุ๋ม รอยแดง หรือผิวหนังหนาตึง มีลักษณะคล้ายเปลือกส้ม
- ขนาดหรือรูปร่างเต้านมไม่เท่ากัน เกิดการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาไม่นาน
- กดแล้วเจ็บ หรือมีอาการระคายเคืองผิดปกติ หรือมีอาการเจ็บซ้ำๆ ที่ตำแหน่งเดิม
- ผื่นบริเวณหัวนมหรือลานนม
ทำไมการสังเกตสัญญาณเล็กน้อยจึงสำคัญ?
ในระยะเริ่มต้น มะเร็งเต้านมมักไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดชัดเจน หลายคนจึงเข้าใจผิดและปล่อยให้เวลาผ่านไป การสังเกตการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น สีผิว รูปร่าง หรือการหลั่งของหัวนม จึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้พบความผิดปกติได้เร็ววิธีตรวจเบื้องต้นที่ทุกคนทำได้
1. ตรวจเต้านมด้วยตนเอง (Breast Self-Examination: BSE)- ควรทำทุกเดือน หลังหมดประจำเดือน 7–10 วัน
- ยืนหน้ากระจกเพื่อสังเกตขนาด รูปร่าง สีผิว และหัวนม
- ใช้นิ้วคลำวนไปรอบ ๆ เต้านมทั้งข้างซ้ายและขวา รวมถึงใต้รักแร้ และคลำใต้หัวนม
2. ตรวจโดยแพทย์ (Clinical Breast Examination: CBE)
- ควรตรวจทุกปีตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไป
3. การตรวจคัดกรองด้วยเครื่องมือ
- แมมโมแกรม (Mammogram) แนะนำเริ่มตรวจตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป
- อัลตราซาวด์เต้านม เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีเนื้อเต้านมหนาแน่น โดยปกติจะทำร่วมกับแมมโมแกรม
ปัจจัยเสี่ยงที่ควรรู้
- อายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะอายุเกิน 40 ปี
- ประวัติครอบครัวเคยเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งต่อมลูกหมาก หรือมะเร็งตับอ่อน
- การกลายพันธุ์ของยีน เช่น BRCA1/BRCA2 หรือ PALB2 เป็นต้น
- การมีประจำเดือนตั้งแต่อายุน้อย หรือหมดประจำเดือนช้า
- การใช้ฮอร์โมนทดแทนต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้ฮอร์โมนทดแทนเกิน 5 ปี
- การใช้ชีวิต เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ออกกำลังกายน้อย และมีน้ำหนักเกิน
คำแนะนำในการดูแลตนเอง
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- รับประทานอาหารสมดุล ลดไขมันอิ่มตัวและเนื้อสัตว์แปรรูป
- จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
- รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ตรวจสุขภาพและเข้ารับการตรวจคัดกรองตามช่วงอายุ
มะเร็งเต้านมไม่ได้บ่งบอกด้วย “ก้อน” เพียงอย่างเดียว แต่ยังแสดงออกผ่านสัญญาณเล็ก ๆ ที่หลายครั้งถูกมองข้าม หากรู้จักสังเกตและเข้ารับการตรวจตามคำแนะนำ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตรวจพบและรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองสังเกตเต้านมของคุณในวันนี้ หากพบความผิดปกติใด ๆ อย่าปล่อยผ่านไป การใส่ใจร่างกายเป็นการปกป้องสุขภาพของคุณเองในระยะยาว
ศูนย์เต้านม
โทร. 0-2265-7777
ศูนย์รักษา: ศูนย์เต้านม
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 05/10/2025
แพทย์ผู้เขียน
พญ. ลักขณา อดิเรกลาภวงศ์

ความถนัดเฉพาะทาง
ศัลยแพทย์ทั่วไป-เต้านม