• banner

ทำไม “วิตามินโฟลิก” สำคัญตั้งแต่ตั้งครรภ์เดือนแรก

เมื่อผู้หญิงรู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรกหรือไม่ก็ตาม เรื่องที่จะตามมาทันทีคือ “ต้องกินอะไรบ้าง?” เพื่อให้ลูกน้อยในครรภ์เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง

หนึ่งในวิตามินที่คุณหมอมักแนะนำทันทีโดยไม่ต้องรอ คือ กรดโฟลิก (Folic Acid) หรือที่หลายคนเรียกกันง่ายๆ ว่า “วิตามินโฟลิก” ซึ่งถือเป็นสารอาหารสำคัญอันดับต้นๆ ที่คุณแม่ควรเริ่มกินทันทีที่รู้ว่าตั้งครรภ์ หรือถ้าเป็นไปได้ ควรเริ่มกินล่วงหน้าก่อนการตั้งครรภ์ด้วยซ้ำ

แต่ว่าโฟลิกคืออะไร? ทำไมถึงสำคัญมากในช่วงเดือนแรกของการตั้งครรภ์? แล้วต้องกินเท่าไหร่? บทความนี้มีคำตอบแบบเข้าใจง่ายสำหรับคุณแม่ทุกคน

วิตามินโฟลิกคืออะไร?

โฟลิก หรือชื่อเต็มว่า “กรดโฟลิก” เป็นวิตามินในกลุ่มบี (Vitamin B9) ซึ่งมีหน้าที่ช่วยในกระบวนการสร้างเซลล์ใหม่ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์ประสาท หรือเนื้อเยื่อต่างๆ

สำหรับคนทั่วไป โฟลิกช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง และส่งเสริมระบบประสาทให้ทำงานปกติ แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ โฟลิกมีความสำคัญมากเป็นพิเศษ เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับ “พัฒนาการของทารกในครรภ์” โดยเฉพาะระบบสมองและไขสันหลัง ซึ่งเป็นอวัยวะที่เริ่มสร้างตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ 3–4 ของการตั้งครรภ์

ทำไมโฟลิกถึงสำคัญมากในช่วงแรกของการตั้งครรภ์?

สิ่งที่น่าตกใจคือ อวัยวะหลักของทารก เช่น สมอง ไขสันหลัง และระบบประสาท จะเริ่มพัฒนาในช่วงก่อนที่คุณแม่จะรู้ตัวว่าท้องเสียอีก!

หากร่างกายคุณแม่ขาดโฟลิกในช่วงนี้ อาจทำให้ทารกเกิดความผิดปกติของท่อประสาท (Neural Tube Defect) ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาเป็นสมองและไขสันหลัง เช่น

    • ภาวะกระดูกสันหลังไม่ปิดสมบูรณ์ (Spina Bifida): กระดูกสันหลังปิดไม่สนิท ทำให้ประสาทไขสันหลังพัฒนาการผิดปกติ อาจทำให้เด็กพิการหรือเดินไม่ได้
    • ภาวะไม่มีกะโหลกศีรษะ หรือกะโหลกศีรษะปิดไม่สมบูรณ์ (Anencephaly): สมองจะไม่พัฒนา เด็กมักเสียชีวิตตั้งแต่แรกคลอด
การกินโฟลิกอย่างเพียงพอจึงช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาเหล่านี้ได้ถึง 70%

โฟลิกจากอาหาร แม้ว่าอาหารหลายชนิดจะมีโฟลิกตามธรรมชาติ เช่น ผักใบเขียวเข้ม (คะน้า ตำลึง ผักโขม) ถั่วต่างๆ เมล็ดธัญพืช ไข่แดง ตับ ไก่ ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม ฝรั่ง

แต่ในชีวิตจริง คุณแม่อาจได้รับไม่เพียงพอจากอาหารเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะในช่วงก่อนรู้ว่าตั้งครรภ์ ดังนั้นแพทย์จึงมักแนะนำให้เสริมด้วยโฟลิกในรูปแบบเม็ด (Folic Acid Supplement) ควบคู่กับอาหาร เพื่อให้มั่นใจว่าร่างกายได้รับในปริมาณที่เพียงพอ

ควรกินโฟลิกเท่าไหร่?

    • ผู้หญิงที่วางแผนจะมีบุตร ควรเริ่มกินโฟลิกวันละ 400 ไมโครกรัม (mcg) อย่างน้อย 1 เดือนก่อนตั้งครรภ์
    • หญิงตั้งครรภ์ ควรกินต่อเนื่องในขนาด 400–600 ไมโครกรัม/วัน ไปจนถึงไตรมาสแรก หรือมากกว่านั้นตามคำแนะนำของแพทย์
กรณีคุณแม่ที่มีประวัติทารกพิการในครรภ์ครั้งก่อน หรือเป็นโรคบางชนิด เช่น ลมชัก หรือเบาหวาน แพทย์อาจให้ขนาดสูงขึ้นถึง 4–5 มิลลิกรัมต่อวัน


โฟลิกไม่ใช่แค่เรื่องลูก แต่เพื่อสุขภาพของแม่ด้วย

นอกจากช่วยป้องกันความผิดปกติในลูกน้อย เช่น โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดของทารกบางชนิด ภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ น้ำหนักทารกแรกเกิดต่ำ โฟลิกยังมีบทบาทในการลดความเสี่ยงของแม่ เช่น ภาวะโลหิตจางในแม่ ภาวะครรภ์เป็นพิษ และการคลอดก่อนกำหนด

อีกทั้งยังช่วยให้คุณแม่รู้สึกกระปรี้กระเปร่า สมองปลอดโปร่ง และฟื้นตัวหลังคลอดได้ดีขึ้นด้วย

การเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์ไม่ใช่แค่การไปฝากครรภ์เท่านั้น แต่รวมถึงการบำรุงร่างกายให้พร้อมอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะเรื่องโภชนาการ

“โฟลิก” คือวิตามินสำคัญที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม ควรเริ่มกินตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ และกินต่อเนื่องในช่วง 3 เดือนแรก เพื่อให้ลูกน้อยมีโอกาสเจริญเติบโตได้สมบูรณ์ ลดความเสี่ยงของภาวะผิดปกติแต่กำเนิด และยังส่งผลดีต่อสุขภาพของแม่ในระยะยาว


ศูนย์สุขภาพสตรี
โทร. 0-2265-7777
ศูนย์รักษา: ศูนย์สุขภาพสตรี
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 06/08/2025

แพทย์ผู้เขียน

นพ. พิบูลย์ ลีละพัฒนะ

img

ความถนัดเฉพาะทาง

แพทย์ทางด้านรักษาผู้มีบุตรยาก

ความถนัดเฉพาะทางอื่น

-

ภาษาสื่อสาร

ไทย, อังกฤษ

ติดต่อเรา