เก็บผิวดีไว้ได้มากที่สุด ผ่าตัดมะเร็งผิวหนัง ด้วยวิธี Mohs Micrographic Surgery

เมื่อเราพบว่ามีก้อนหรือตุ่มที่สงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งผิวหนัง แพทย์ผิวหนังจะทำการตรวจผิวหนังอย่างละเอียด รวมถึงอาจมีการส่องกล้องเพื่อพิจารณารอยโรคต่างๆ ว่ามีความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังมากน้อยเพียงใด หากเราคิดว่ามีความเสี่ยงสูง หรือหากต้องการความมั่นใจว่า ส่วนนั้นจะเป็นมะเร็งผิวหนังหรือไม่

ดังนั้น เราจำเป็นต้องตัดชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยา เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโรคหรือตุ่มก้อนนั้นเป็นหรือไม่เป็นมะเร็ง เมื่อพบว่าเป็นมะเร็งผิวหนัง การรักษาที่พบได้บ่อยที่สุด คือ การผ่าตัด เนื่องจากมะเร็งผิวหนังโดยทั่วไปไม่ใช่โรคที่อันตรายมาก หากตัดก้อนมะเร็งออกได้ทั้งหมด ก็ถือว่าเป็นการรักษาที่หายขาดได้ การรักษาส่วนใหญ่ประมาณ 95% เป็นการผ่าตัด

การรักษามะเร็งผิวหนังด้วยวิธี Mohs Micrographic Surgery  เป็นวิธีหนึ่งในการรักษามะเร็งผิวหนังที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่า สามารถตัดมะเร็งผิวหนังออกได้หมดอย่างแม่นยำ

Mohs Micrographic Surgery คือ การผ่าตัดมะเร็งผิวหนัง และส่งชิ้นเนื้อที่ตัดออกไปตรวจทางพยาธิวิทยาในวันเดียวกัน โดยสามารถตรวจชิ้นเนื้อได้รอบด้าน ทั้งขอบข้างและฐานของมะเร็ง เพื่อตรวจสอบว่าเนื้อมะเร็งถูกตัดออกหมดหรือไม่ เมื่อตรวจรอบแรก หากพบว่าเนื้อมะเร็งหมดไปแล้ว ก็จะทำการปิดแผล

ดังนั้น ผ่าตัดมะเร็งผิวหนังแบบ Mohs Micrographic Surgery จึงเป็นวิธีที่ผ่าตัดและตรวจพยาธิวิทยาได้ทันที พร้อมรายงานผล เพื่อดูว่าขอบเขตของมะเร็งถูกตัดออกหมดหรือไม่ หากมะเร็งยังไม่หมด ก็สามารถตัดเพิ่มและนำส่งตรวจอีกครั้ง จนมั่นใจว่ามะเร็งผิวหนังถูกนำออกหมดแล้ว

การผ่าตัดมะเร็งผิวหนังด้วยวิธี Mohs Micrographic Surgery จะเป็นการผ่าตัดเล็กเป็นส่วนใหญ่ แผลที่เกิดขึ้นมักจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก เนื่องจากในการผ่าตัดวิธีนี้ จะตัดและตรวจจนมั่นใจว่ามะเร็งถูกตัดออกหมด โดยมากขอบรอบรอยโรคจะมีขนาดเท่าที่จำเป็นจริงๆ จึงเป็นการรักษาที่ไม่ต้องตัดชิ้นเนื้อมากเกินไป โดยเฉพาะในตำแหน่งสำคัญ เช่น บริเวณจมูก รอบดวงตา ใบหน้า ทำให้ลดการเสียรูปของอวัยวะเหล่านั้นได้น้อยกว่าการผ่าตัดทั่วไป ซึ่งเป็นการผ่าตัดแบบกว้าง ดังนั้น แผลจากการผ่าตัดด้วย Mohs Micrographic Surgery มักมีขนาดเล็ก ให้ผลลัพธ์ที่สวยงามและยอมรับได้มากกว่าวิธีการผ่าตัดแบบทั่วไป

ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา คือ ตำแหน่งของมะเร็ง หากมะเร็งอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญ เช่น รอบดวงตา จมูก ปาก หรือบริเวณที่อาจส่งผลต่อการกระจายของโรค เช่น หู จมูก พบว่าเป็นตำแหน่งที่มีความเสี่ยงต่อการกระจายของมะเร็ง ซึ่งมองเห็นได้ไม่ชัดเจน วิธีนี้จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม

ส่วนปัจจัยอื่นที่ควรพิจารณาในการเลือกวิธีรักษานี้ ได้แก่ ชนิดของมะเร็ง แม้ว่ามะเร็งผิวหนังบางชนิดจะเรียกเหมือนกัน เช่น Basal Cell Carcinoma แต่บางรูปแบบก็มีลักษณะที่จำเป็นต้องใช้การรักษาด้วยวิธี Mohs Micrographic Surgery เนื่องจากการผ่าตัดแบบทั่วไป อาจบอกไม่ได้ 100% ว่า เมื่อตัดเผื่อขอบกว้างขึ้น จะนำมะเร็งออกได้หมด

ดังนั้น การผ่าตัดมะเร็งผิวหนังด้วยวิธี Mohs Micrographic Surgery จึงเป็นการรักษาที่ทำให้เรามีความมั่นใจได้มากขึ้น ว่าเราสามารถจะนำมะเร็งออกได้หมด และยังทำให้เกิดแผลที่มีขนาดเล็กกว่าการผ่าตัดด้วยวิธีปกติค่ะ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2265 7777