เช็ก 7 อาการ เสี่ยงภาวะเชื้อราในช่องคลอด
สำหรับผู้หญิงหลายคน "ตกขาว" อาจเป็นเรื่องปกติที่เจอได้ในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าตกขาวของคุณเริ่มมีลักษณะที่เปลี่ยนไป พร้อมกับอาการคัน แสบ หรือรู้สึกไม่สบายตัว นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของ "ภาวะเชื้อราในช่องคลอด" หรือที่รู้จักกันในชื่อทางการแพทย์ว่า "ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา" ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยมากในผู้หญิงทุกวัย บทความนี้จะชวนคุณมาเช็กอาการ สาเหตุ และวิธีดูแลตัวเอง เพื่อให้ช่องคลอดกลับมาแข็งแรง ห่างไกลจากเชื้อรากวนใจค่ะ
• การใช้ยาปฏิชีวนะ ยาปฏิชีวนะอาจไปฆ่าแบคทีเรียดีๆ ที่คอยควบคุมเชื้อราในช่องคลอด ทำให้เชื้อราเพิ่มจำนวนได้
• ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ในผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยเอดส์ หรือผู้ที่รับประทานยากดภูมิ
• การใส่เสื้อผ้าอับชื้น หรือรัดแน่นเกินไป ทำให้บริเวณช่องคลอดอับชื้น เป็นสภาพแวดล้อมที่เชื้อราชอบ
• การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่ไม่เหมาะสม สบู่หรือน้ำยาที่มีกลิ่นหอมแรงๆ อาจรบกวนสมดุลของช่องคลอด
• มีอาการคันช่องคลอดอย่างรุนแรง อาการคันอาจเป็นๆ หายๆ หรือคันตลอดเวลา สร้างความรำคาญอย่างมาก
• แสบร้อนหรือเจ็บปวดบริเวณช่องคลอดและปากช่องคลอด โดยเฉพาะเวลาปัสสาวะ หรือมีเพศสัมพันธ์
• เยื่อบุช่องคลอดและปากช่องคลอดบวมแดง อาจสังเกตได้จากการบวมและมีรอยแดงที่บริเวณอวัยวะเพศภายนอก
• เจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากช่องคลอดแห้งและระคายเคือง
• มีผื่นแดงรอบๆ อวัยวะเพศ อาจมีผื่นแดงเล็กๆ หรือตุ่มน้ำใสๆ ขึ้นบริเวณรอบนอก
• ปัสสาวะแสบขัด คล้ายอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่จะไม่มีไข้สูง
• ตรวจภายใน เพื่อดูสภาพของช่องคลอดและปากมดลูก
• เก็บตัวอย่างตกขาว นำไปตรวจภายใต้กล้องจุลทรรศน์ เพื่อยืนยันว่ามีเชื้อราหรือไม่
• ยาครีมทาภายนอก สำหรับบรรเทาอาการคันและแสบร้อนที่ผิวหนังบริเวณปากช่องคลอด
• ยาเม็ดรับประทาน สำหรับบางราย หรือกรณีที่อาการรุนแรง
ภาวะเชื้อราในช่องคลอดไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและสามารถรักษาให้หายขาดได้ สิ่งสำคัญคือการ สังเกตอาการตัวเองอยู่เสมอ และหากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ การดูแลสุขอนามัยของจุดซ่อนเร้นอย่างเหมาะสม เช่น สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่สวนล้างช่องคลอด ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเชื้อราในช่องคลอดได้อีกด้วยค่ะ
ศูนย์สุขภาพสตรี
โทร. 0-2265-7777
เชื้อราในช่องคลอดเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ช่องคลอดของผู้หญิงเรามีแบคทีเรียและเชื้อราอาศัยอยู่ตามธรรมชาติในภาวะสมดุล แต่เมื่อใดก็ตามที่สมดุลนี้เสียไป โดยเฉพาะเมื่อเชื้อราแคนดิดา (Candida albicans) ซึ่งเป็นเชื้อรากลุ่มหนึ่งที่พบได้ทั่วไป เจริญเติบโตมากผิดปกติ ก็จะทำให้เกิดภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อราขึ้นมาได้ค่ะปัจจัยที่ทำให้สมดุลเสียไปและเชื้อราเติบโตได้ดีขึ้น ได้แก่
• ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนไป เช่น ช่วงใกล้มีประจำเดือน ตั้งครรภ์ หรือใช้ยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนสูง• การใช้ยาปฏิชีวนะ ยาปฏิชีวนะอาจไปฆ่าแบคทีเรียดีๆ ที่คอยควบคุมเชื้อราในช่องคลอด ทำให้เชื้อราเพิ่มจำนวนได้
• ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ในผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยเอดส์ หรือผู้ที่รับประทานยากดภูมิ
• การใส่เสื้อผ้าอับชื้น หรือรัดแน่นเกินไป ทำให้บริเวณช่องคลอดอับชื้น เป็นสภาพแวดล้อมที่เชื้อราชอบ
• การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่ไม่เหมาะสม สบู่หรือน้ำยาที่มีกลิ่นหอมแรงๆ อาจรบกวนสมดุลของช่องคลอด
7 อาการน่าสงสัย ที่คุณควรเช็กตัวเอง
• ตกขาวมีลักษณะคล้ายนมบูด หรือคอนเทจชีส ตกขาวจะข้นเหนียว มีสีขาวขุ่น อาจมีกลิ่นหรือไม่ก็ได้• มีอาการคันช่องคลอดอย่างรุนแรง อาการคันอาจเป็นๆ หายๆ หรือคันตลอดเวลา สร้างความรำคาญอย่างมาก
• แสบร้อนหรือเจ็บปวดบริเวณช่องคลอดและปากช่องคลอด โดยเฉพาะเวลาปัสสาวะ หรือมีเพศสัมพันธ์
• เยื่อบุช่องคลอดและปากช่องคลอดบวมแดง อาจสังเกตได้จากการบวมและมีรอยแดงที่บริเวณอวัยวะเพศภายนอก
• เจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากช่องคลอดแห้งและระคายเคือง
• มีผื่นแดงรอบๆ อวัยวะเพศ อาจมีผื่นแดงเล็กๆ หรือตุ่มน้ำใสๆ ขึ้นบริเวณรอบนอก
• ปัสสาวะแสบขัด คล้ายอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่จะไม่มีไข้สูง
การวินิจฉัยและการรักษา
• ซักประวัติ สอบถามอาการและปัจจัยเสี่ยงต่างๆ• ตรวจภายใน เพื่อดูสภาพของช่องคลอดและปากมดลูก
• เก็บตัวอย่างตกขาว นำไปตรวจภายใต้กล้องจุลทรรศน์ เพื่อยืนยันว่ามีเชื้อราหรือไม่
เมื่อได้รับการวินิจฉัยแล้ว การรักษามักจะทำได้ไม่ยาก โดยแพทย์จะพิจารณาให้ยาตามความเหมาะสม เช่น
• ยาเหน็บช่องคลอด มีทั้งแบบใช้ครั้งเดียว หรือใช้ต่อเนื่องหลายวัน• ยาครีมทาภายนอก สำหรับบรรเทาอาการคันและแสบร้อนที่ผิวหนังบริเวณปากช่องคลอด
• ยาเม็ดรับประทาน สำหรับบางราย หรือกรณีที่อาการรุนแรง
สิ่งสำคัญคือ ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด แม้อาการจะดีขึ้นแล้วก็ควรใช้ยาให้ครบโดส เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
ภาวะเชื้อราในช่องคลอดไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและสามารถรักษาให้หายขาดได้ สิ่งสำคัญคือการ สังเกตอาการตัวเองอยู่เสมอ และหากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ การดูแลสุขอนามัยของจุดซ่อนเร้นอย่างเหมาะสม เช่น สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่สวนล้างช่องคลอด ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเชื้อราในช่องคลอดได้อีกด้วยค่ะ
ศูนย์สุขภาพสตรี
โทร. 0-2265-7777
ศูนย์รักษา: ศูนย์สุขภาพสตรี
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 08/08/2025
แพทย์ผู้เขียน
พญ. พิมพ์อร คงประยูร

ความถนัดเฉพาะทาง
แพทย์ทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์