ปากกาควบคุมน้ำหนักเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานหรือไม่?
โรคเบาหวานชนิดที่ 2 มักสัมพันธ์กับภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดยากขึ้น หลายคนแม้จะพยายามปรับอาหาร ออกกำลังกาย และรับประทานยาตามแพทย์สั่งแล้ว แต่ยังควบคุมน้ำตาลได้ไม่ดีนัก ปัจจุบันมีวิธีการรักษาเพิ่มเติมที่ได้รับความสนใจมากขึ้น คือ ปากกาควบคุมน้ำหนัก (GLP-1 receptor agonist) คำถามสำคัญคือ วิธีนี้เหมาะสมกับผู้ป่วยเบาหวานหรือไม่?
นอกจากนี้ ยาเบาหวานบางชนิดยังทำให้น้ำหนักขึ้นได้ด้วย การควบคุมน้ำหนักจึงมีบทบาทสำคัญ เพราะการลดน้ำหนักเพียง 5-10% สามารถช่วยลดระดับน้ำตาล ความดัน และไขมันในเลือดได้อย่างมีนัยสำคัญ
แม้จะมีข้อดี แต่ปากกาควบคุมน้ำหนักก็มีข้อจำกัดที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
ปากกาควบคุมน้ำหนักเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 สามารถควบคุมน้ำตาลและลดน้ำหนักไปพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ไม่ใช่วิธีที่เหมาะกับทุกคน การตัดสินใจใช้ยานี้ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้การรักษาเหมาะสม ปลอดภัย และตอบโจทย์สุขภาพของผู้ป่วยมากที่สุด
ศูนย์อายุรกรรม
โทร. 0-2265-7777
ทำไมผู้ป่วยเบาหวานจึงมักมีปัญหาน้ำหนักเกิน?
เบาหวานชนิดที่ 2 เกิดจากภาวะ "ดื้อต่ออินซูลิน" ทำให้ร่างกายจัดการกับน้ำตาลได้ไม่เต็มที่ เมื่อระดับ น้ำตาลสูงขึ้น ตับอ่อนต้องทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้ผู้ป่วยมักรู้สึกหิวบ่อย กินมากขึ้น น้ำตาลส่วนเกินถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในร่างกาย ยิ่งทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นนอกจากนี้ ยาเบาหวานบางชนิดยังทำให้น้ำหนักขึ้นได้ด้วย การควบคุมน้ำหนักจึงมีบทบาทสำคัญ เพราะการลดน้ำหนักเพียง 5-10% สามารถช่วยลดระดับน้ำตาล ความดัน และไขมันในเลือดได้อย่างมีนัยสำคัญ
ปากกาควบคุมน้ำหนักเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานอย่างไร?
ยากลุ่มนี้ทำงานโดยปรับการหลั่งอินซูลิน ช่วยนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงาน ลดการหลั่งกลูคากอน ลดการสร้างน้ำตาลจากตับ ชะลอการบีบตัวของกระเพาะและลำไส้ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น รวมถึง ลดความอยากอาหาร จึงตอบโจทย์ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มักมีปัญหาน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนประโยชน์ที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน
- น้ำหนักลดลงเฉลี่ย 5-15% ของน้ำหนักตัว
- ค่า HbA1c ลดลง แสดงว่าการควบคุมน้ำตาลดีขึ้น
- ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนสำคัญของเบาหวาน
- ชะลอความเสื่อมของไตในผู้ป่วยเบาหวาน และลดโปรตีนรั่วในปัสสาวะ
- ใช้ง่าย เป็นปากกาฉีดที่ผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองที่บ้านได้
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มใช้
แม้จะมีข้อดี แต่ปากกาควบคุมน้ำหนักก็มีข้อจำกัดที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ- ในช่วงแรกบางคนอาจมีคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย
- ต้องใช้ต่อเนื่อง เพื่อผลลัพธ์ตามเป้าหมาย ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดเฉพาะ หรือผู้ที่มีภาวะตับอ่อน อักเสบ
- ปฏิกิริยากับยาอื่น ต้องแจ้งแพทย์ถึงยาที่ใช้ประจำทั้งหมด เช่น ยาลดน้ำตาลชนิดอื่น หรือยาลดความดัน
- ไม่ใช่วิธีเดียวในการรักษา ยังคงต้องควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่กัน
แตกต่างจากยาเบาหวานทั่วไปอย่างไร?
- ยาเบาหวานทั่วไป เช่น เมตฟอร์มิน หรืออินซูลิน ช่วยควบคุมน้ำตาลโดยตรง แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องน้ำหนัก บางชนิดอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
- ปากกาควบคุมน้ำหนัก มีจุดเด่น คือ ควบคุมระดับน้ำตาลไปพร้อมกับการลดน้ำหนัก นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ ที่ช่วยป้องกันโรคแทรกซ้อนสำคัญของผู้ป่วยเบาหวาน
เหมาะกับใครเป็นพิเศษ?
- ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มี BMI 2 25kg/m?
- ผู้ที่มีโรคร่วม เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือโรคหัวใจ
- ผู้ที่พยายามปรับพฤติกรรมแล้วได้ผลไม่ดี
- ผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว
ปากกาควบคุมน้ำหนักเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 สามารถควบคุมน้ำตาลและลดน้ำหนักไปพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ไม่ใช่วิธีที่เหมาะกับทุกคน การตัดสินใจใช้ยานี้ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้การรักษาเหมาะสม ปลอดภัย และตอบโจทย์สุขภาพของผู้ป่วยมากที่สุด
ศูนย์อายุรกรรม
โทร. 0-2265-7777
ศูนย์รักษา: ศูนย์อายุรกรรม
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 28/09/2025
แพทย์ผู้เขียน
พญ. สุพรรณิการ์ เจริญ
ความถนัดเฉพาะทาง
อายุรแพทย์โรคต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิสม





