ข้อสะโพกเทียมปลอดภัยยิ่งขึ้น รู้ทันภาวะแทรกซ้อนและวิธีดูแลหลังผ่าตัด
 การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมช่วยให้ผู้ป่วยจำนวนมากกลับมาใช้ชีวิตได้คล่องตัวขึ้น แต่ทุกการผ่าตัดย่อมมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน การเข้าใจความเสี่ยงเหล่านี้และรู้วิธีป้องกันตั้งแต่แรกจึงสำคัญอย่างยิ่ง การเตรียมตัวด้วยความรู้ที่ถูกต้องจะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาและทำให้การฟื้นตัวหลังผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยมากขึ้น
ภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมมีหลายรูปแบบ แต่ส่วนใหญ่อยู่ในขอบเขตที่ป้องกันได้ ถ้าเราทราบความเสี่ยง ปรับปัจจัยเสี่ยง และปฏิบัติตามแนวทางดูแลอย่างเคร่งครัด ภาวะแทรกซ้อนสามารถลดลงได้มาก พูดอีกมุมคือ เมื่อ “ความเข้าใจ + แนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม” มาบรรจบกัน ผลลัพธ์ที่ดีจะมีโอกาสสูงขึ้นครับ
หากคุณกำลังพิจารณาผ่าตัดข้อสะโพกเทียมหรือเพิ่งผ่านการผ่าตัดมา อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมข้อสะโพก เพื่อประเมินความเสี่ยงส่วนบุคคล พร้อมรับคำแนะนำเชิงลึกและแผนการป้องกันเฉพาะตัว ติดต่อคลินิกของเราเพื่อนัดหมายเข้าตรวจประเมินครับ
ศูนย์โรคกระดูกและข้อ
โทร. 0-2265-7777
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหลังผ่าตัด
แม้โอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนโดยรวมจะต่ำ แต่มีบางภาวะที่ควรทราบ ได้แก่- การติดเชื้อ (Surgical Site Infection) เป็นภาวะที่เจ็บบริเวณแผลผ่าตัด บวม แดง หรือมีของเหลวไหลออกมา อาจลุกลามลึกไปถึงข้อเทียม การติดเชื้อเป็นหนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่ศัลยแพทย์ให้ความสำคัญมาก
- ลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ (Venous Thromboembolism, VTE) หลังผ่าตัดผู้ป่วยอาจมีโอกาสเกิดลิ่มเลือดอุดตันที่ขา (DVT) และลิ่มเลือดอาจเคลื่อนเข้าสู่ปอด (pulmonary embolism) ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้
- ข้อสะโพกหลุด (Dislocation) คือภาวะที่ส่วนหัวข้อสะโพกเทียมเคลื่อนออกจากที่ การเลือกแนวผ่าตัด ขนาดหัวข้อเทียม เทคนิคการใส่ และสภาพเนื้อเยื่อรอบ ๆ มีผลต่อโอกาสหลุด
- รอยร้าวหรือแตกของกระดูกรอบข้อเทียม (Periprosthetic Fracture) อาจเกิดจากแรงภายนอก เช่น หกล้ม หรือน้ำหนักที่ไม่เหมาะสม
- ความยาวขาไม่เท่ากัน (Leg Length Discrepancy) หากในการผ่าตัดมีการจัดแนวขาไม่สมดุล อาจทำให้ขาด้านใดด้านหนึ่งยาวกว่าหรือสั้นกว่าปกติ
- การหลุดหรือหลวมของข้อเทียม (Loosening / Wear) ในระยะยาว ข้อเทียมอาจมีการสึกหรอ หรือยึดเกาะไม่มั่นคง ส่งผลให้เจ็บหรือการเคลื่อนไหวแย่ลง
- ภาวะแทรกซ้อนทางระบบอื่น ๆ รวมถึงภาวะหัวใจหรือปอด, ปัญหาไต, ภาวะเลือดออก, ปัญหาจากการวางยาสลบ หรือภาวะสมองสับสนภายหลังผ่าตัด
ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน
เพื่อให้เข้าใจดีขึ้นว่าใครบ้างเสี่ยงมากขึ้น ผมขอสรุปปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่- อายุสูง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ≥ 65 ปี
- ค่า BMI สูง (น้ำหนักมาก)
- โรคร่วม เช่น ความดันโลหิต เบาหวาน โรคหัวใจหรือปอด
- ระยะเวลาการผ่าตัดนาน และเลือดสูญเสียมากขึ้น
- ความไม่ปฏิบัติตามแนวทางป้องกันหลังผ่าตัด เช่น หยุดเคลื่อนไหวนาน ไม่ใส่อุปกรณ์หรือให้ยาป้องกันลิ่มเลือดอุดตันที่เหมาะสม
- เทคนิคการผ่าตัด และประสบการณ์ของศัลยแพทย์
- ปริมาณสารคัดหลั่งในร่างกายและภาวะโภชนาการไม่ดี
วิธีป้องกันภาวะแทรกซ้อน แนวทางที่แพทย์แนะนำ
เพื่อให้ผลลัพธ์การผ่าตัดออกมาดีที่สุด ผมแนะนำแนวทางป้องกันดังนี้การป้องกันการติดเชื้อ
- ให้ยาปฏิชีวนะเชิงป้องกัน (antibiotic prophylaxis) ก่อนผ่าตัดตามแนวทาง
- รักษาความสะอาดรอบแผล ติดตามอาการบวม แดง ของเหลวไหลออกจากแผลผ่าตัด
- ใช้เทคนิคปลอดเชื้อทั้งในห้องผ่าตัดและหอผู้ป่วยหลังผ่าตัด
- ติดตามตรวจเลือดและตรวจแผลตามนัด
ป้องกันลิ่มเลือด (VTE prophylaxis)
- ใช้ยาต้านการแข็งตัวเลือดหรือยาป้องกันตามข้อแนะนำ
- ใส่ถุงน่องแรงดัน (compression stockings) หรืออุปกรณ์ช่วยการไหลเวียนเลือด
- เคลื่อนไหวขาช้า ๆ ตามคำแนะนำ (ออกกำลังกายขา)
- หลีกเลี่ยงช่วงที่ไม่เคลื่อนไหวนาน เช่น วันแรกหลังผ่าตัด ถ้าไม่มีข้อห้าม
ป้องกันข้อหลุด
- หลีกเลี่ยงท่าที่มีแรงหมุนหรือบิดของสะโพกจัดในช่วงแรก
- แนะนำท่าการนั่ง การลุกนั่ง และการเคลื่อนไหวที่ปลอดภัย
- เลือกวิธีผ่าตัดและขนาดหัวข้อเทียมที่ช่วยลดโอกาสหลุด เช่น การซ่อมเนื้อเยื่อด้านหลัง (กรณีผ่าตัดทางด้านหลัง) การใช้หัวข้อเทียมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
ป้องกันรอยร้าวของกระดูก
- หลีกเลี่ยงแรงกระแทก เช่น หกล้มหรือขึ้นลงบันไดเร็วเกิน
- ระมัดระวังในการขยับหรือทรงตัว
- ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
ตรวจติดตามและปรับการดูแลตนเอง
- นัดหมายตรวจภาพรังสีและพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
- ปรับกิจวัตรประจำวัน เช่น ใช้พื้นที่ปลอดภัยในบ้าน ลดการล้ม
- ฟังร่างกาย ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น ปวดรุนแรง บวม ร้อน หรือเคลื่อนไหวแปลก ให้ติดต่อแพทย์ทันที
บทบาทของผู้ป่วยคือกุญแจสู่ผลสำเร็จ
แม้แพทย์จะวางแผนและดำเนินการด้านเทคนิคอย่างรัดกุม แต่ความร่วมมือของผู้ป่วยเป็นสิ่งสำคัญที่จะลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน- ปฏิบัติตามคำแนะนำทั้งเรื่องยา กายภาพ และกิจวัตรประจำวัน
- แจ้งแพทย์ทันทีถ้ารู้สึกเจ็บผิดปกติ แผลไม่ดีขึ้น มีไข้ หรืออาการอื่น ๆ
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์เกิน การล้ม
- รักษาสุขภาพโดยรวมให้ดี เช่น ควบคุมโรคร่วม โภชนาการดี
- มีจิตใจพร้อมติดตามผลระยะยาว และให้ความสำคัญกับการตรวจติดตาม
ภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมมีหลายรูปแบบ แต่ส่วนใหญ่อยู่ในขอบเขตที่ป้องกันได้ ถ้าเราทราบความเสี่ยง ปรับปัจจัยเสี่ยง และปฏิบัติตามแนวทางดูแลอย่างเคร่งครัด ภาวะแทรกซ้อนสามารถลดลงได้มาก พูดอีกมุมคือ เมื่อ “ความเข้าใจ + แนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม” มาบรรจบกัน ผลลัพธ์ที่ดีจะมีโอกาสสูงขึ้นครับ
หากคุณกำลังพิจารณาผ่าตัดข้อสะโพกเทียมหรือเพิ่งผ่านการผ่าตัดมา อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมข้อสะโพก เพื่อประเมินความเสี่ยงส่วนบุคคล พร้อมรับคำแนะนำเชิงลึกและแผนการป้องกันเฉพาะตัว ติดต่อคลินิกของเราเพื่อนัดหมายเข้าตรวจประเมินครับ
ศูนย์โรคกระดูกและข้อ
โทร. 0-2265-7777
Medical Center: Bone and Joint Center 
	    				Publish date desc: 05/10/2025
	    	
				    Author doctor
Dr. Chittawee Jiamton
 
						Specialty
Orthopaedic Surgeon
							
						 
 
                    


 
						 
								     
			 
			 
			 
			


