• banner

ไขมันพอกตับ ไม่แสดงอาการ…จนกว่าจะสายไป

ตับ…อวัยวะที่เงียบแต่เสี่ยง

ในทุกวัน ตับทำหน้าที่มากกว่า 500 อย่างในร่างกาย—ตั้งแต่ช่วยกำจัดสารพิษ ไปจนถึงสร้างพลังงานและควบคุมไขมัน แต่หนึ่งในภัยที่กำลังเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนวัยทำงานคือ “ไขมันพอกตับ (Fatty Liver)” ซึ่งมักไม่มีอาการในระยะแรกเริ่มเลยแม้แต่น้อย

สิ่งที่ทำให้โรคนี้น่ากังวลไม่ใช่เพียงเพราะมันเงียบ แต่เพราะเรา "ไม่รู้ว่าเราเป็น" และไม่ได้ตรวจพบ จนวันหนึ่งค่าการทำงานของตับผิดปกติ หรือเริ่มมีภาวะอ่อนเพลียเรื้อรัง ตัวเหลือง ตาเหลือง หรือแม้แต่ตับอักเสบเรื้อรังโดยไม่รู้ตัว

ทำไมไขมันถึงไปสะสมในตับ?

สาเหตุหลักของไขมันพอกตับในกลุ่มคนอายุ 30–50 ปีที่ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์มาก มักเกิดจากพฤติกรรมเหล่านี้โดยไม่รู้ตัว:

  • ทานอาหารหวานจัด มันจัด หรือแปรรูปเป็นประจำ
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • น้ำหนักเกิน หรือมีไขมันในช่องท้อง
  • ภาวะดื้อต่ออินซูลิน หรือเป็นเบาหวานชนิดที่ 2
  • เครียด พักผ่อนน้อย และไม่เคยตรวจสุขภาพตับ

บางคนอาจดูผอม ไม่มีพุง แต่ผลตรวจกลับพบค่าไขมันพอกตับสูงได้เช่นกัน เพราะพฤติกรรมหลายอย่างเป็นตัวกระตุ้นโดยตรง แม้จะไม่มีรูปลักษณ์ที่ “ดูเหมือนคนป่วย”

สัญญาณเตือน (ที่หลายคนมองข้าม)

แม้ว่าโรคนี้จะมักไม่แสดงอาการชัดเจนในช่วงแรก แต่มีบางสัญญาณที่ควร “ตั้งข้อสังเกต”:

  • เหนื่อยล้าง่ายกว่าปกติ
  • แน่นหรืออึดอัดบริเวณชายโครงขวา
  • ตรวจสุขภาพแล้วพบค่าตับผิดปกติ (AST, ALT)
  • ระดับไขมันในเลือดสูง
  • เป็นเบาหวานหรือมีภาวะเมตาบอลิกซินโดรม

การเพิกเฉยต่ออาการเล็กน้อยเหล่านี้ อาจทำให้ไขมันพอกตับพัฒนาเป็น ตับอักเสบเรื้อรัง, พังผืดในตับ หรือแม้แต่ ตับแข็งและมะเร็งตับ ในอนาคตได้

วิธีดูแลตับให้พ้นจาก "ไขมันเงียบ"

แม้ไขมันพอกตับจะไม่แสดงอาการ แต่ก็เป็นหนึ่งในภาวะที่สามารถ “จัดการได้” หากเริ่มต้นใส่ใจตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะใน 3 แนวทางสำคัญที่แพทย์แนะนำ:

  1. ปรับพฤติกรรมการกิน
    ลดของทอด ของหวาน น้ำตาล และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เลือกอาหารที่มีเส้นใยสูง ไขมันดีจากพืช และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป
  2. เพิ่มการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน
    เดินวันละ 30 นาที หรือออกกำลังกายแบบต่อเนื่องอย่างน้อย 3–5 วันต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยลดไขมันสะสมและปรับสมดุลการเผาผลาญของร่างกาย
  3. ตรวจสุขภาพตับอย่างสม่ำเสมอ
    โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น น้ำหนักเกิน มีภาวะไขมันในเลือดสูง หรือมีโรคเบาหวาน การตรวจค่าการทำงานของตับและอัลตราซาวด์สามารถช่วยประเมินภาวะไขมันพอกตับได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น

ถึงเวลาตั้งคำถามกับตัวเองว่า…

วันนี้คุณรู้จัก “ตับของตัวเอง” มากแค่ไหน?
คุณอาจไม่รู้ว่ามีไขมันพอกตับอยู่ในร่างกาย
และคุณอาจไม่รู้…ว่าคุณดูแลมันน้อยเกินไป

แต่ตอนนี้ยังไม่สายเกินไป เพราะร่างกายของเรามีความสามารถในการฟื้นฟูได้เสมอ—หากเราเริ่มต้นจากความเข้าใจและการใส่ใจอย่างจริงจัง

ศูนย์รักษา: ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 30/07/2025

แพทย์ผู้เขียน

นพ. วราวุฒิ บูรณวุฒิ

img

ความถนัดเฉพาะทาง

แพทย์ทางด้านโรคระบบทางเดินอาหาร

ความถนัดเฉพาะทางอื่น

-

ภาษาสื่อสาร

ไทย, อังกฤษ

ติดต่อเรา

โปรแกรมอื่นๆ