ข้อเข่าเสื่อมไม่ใช่โรคของคนแก่เสมอไป! วัยทำงานก็เสี่ยง
เวลาพูดถึง “ข้อเข่าเสื่อม” ภาพแรกที่หลายคนคิดถึงคงเป็นผู้สูงอายุที่เดินไม่สะดวกหรือมีไม้เท้าช่วยพยุง แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนวัยทำงานก็มีโอกาสเผชิญกับข้อเข่าเสื่อมได้เช่นกัน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องนั่งนาน ๆ ออกกำลังกายหนัก หรือมีน้ำหนักเกินโดยไม่รู้ตัว โรคนี้จึงไม่ใช่ “โรคของคนแก่เท่านั้น” แต่เป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัย หากเรายังใช้ข้อเข่าในแบบที่ทำให้มันเสื่อมเร็วกว่าปกติ
1. การนั่งนานเกินไป (Sedentary Lifestyle)
การนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวันโดยไม่ขยับ ส่งผลให้กล้ามเนื้อรอบเข่าอ่อนแรง ไม่สามารถช่วยพยุงข้อได้ดี เมื่อข้อขาดการปกป้อง การเสื่อมก็เกิดขึ้นง่ายขึ้น
2. ใช้เข่าหนักเกินกำลัง
บางอาชีพต้องยืนหรือเดินทั้งวัน เช่น ครู พนักงานบริการ พยาบาล รวมถึงงานที่ต้องยกของหนักซ้ำ ๆ สิ่งเหล่านี้เพิ่มแรงกดที่ข้อเข่ามากกว่าการเดินปกติ
3. การออกกำลังกายผิดวิธี
การออกกำลังกายเป็นเรื่องดี แต่หากเป็นกีฬาที่มีแรงกระแทกสูง เช่น วิ่งมาราธอน กระโดด หรือเล่นฟุตบอล อาจทำให้ผิวข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น โดยเฉพาะถ้าร่างกายยังไม่ได้รับการฝึกซ้อมหรือเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างเหมาะสม
4. น้ำหนักตัวเกิน
ทุกกิโลกรัมที่เกินมา จะสร้างแรงกดทับข้อเข่าเพิ่มขึ้น 3–4 เท่าเวลาขึ้นลงบันได คนวัยทำงานที่ไม่ค่อยออกกำลังกายและรับประทานอาหารไม่สมดุลจึงเสี่ยงสูง
5. อุบัติเหตุหรือบาดเจ็บในอดีต
คนที่เคยมีประวัติเอ็นเข่าฉีก หมอนรองกระดูกฉีก หรือกระดูกแตก มักมีโอกาสเกิดข้อเข่าเสื่อมเร็วกว่าคนทั่วไป
2. เสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบเข่า ออกกำลังกายง่าย ๆ เช่น Leg Raise, Bridge หรือใช้ยางยืดฝึกความแข็งแรง
3. เลือกการออกกำลังกายแรงกระแทกต่ำ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือเดินเร็วช่วยเผาผลาญพลังงานโดยไม่เพิ่มแรงกดที่เข่า
4. ควบคุมน้ำหนัก การลดน้ำหนักเพียง 5–10% ของน้ำหนักตัวสามารถลดแรงกดที่ข้อเข่าได้มาก
5. ใช้อุปกรณ์ช่วยพยุง ในบางกรณีอาจใช้สนับเข่าหรือไม้เท้าเพื่อช่วยลดแรงกดและเพิ่มความมั่นคง
ข้อเข่าเสื่อมไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะผู้สูงอายุ แต่สามารถเกิดขึ้นกับวัยทำงานได้เช่นกัน โดยเฉพาะคนที่นั่งนาน ใช้เข่าหนัก หรือมีน้ำหนักเกิน การใส่ใจสุขภาพเข่า ปรับพฤติกรรม และตรวจเช็กกับแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงและทำให้ข้อเข่าอยู่กับเราไปได้นาน
หากคุณเริ่มมีอาการปวดเข่า ฝืดเข่า หรือสงสัยว่าข้อเข่าเริ่มเสื่อม อย่ารอให้ปัญหาลุกลาม ควรเข้าพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินและวางแผนดูแลที่เหมาะสมกับคุณ
ศูนย์โรคกระดูกและข้อ
โทร. 0-2265-7777
ทำไมวัยทำงานถึงเสี่ยงข้อเข่าเสื่อม?
1. การนั่งนานเกินไป (Sedentary Lifestyle)การนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวันโดยไม่ขยับ ส่งผลให้กล้ามเนื้อรอบเข่าอ่อนแรง ไม่สามารถช่วยพยุงข้อได้ดี เมื่อข้อขาดการปกป้อง การเสื่อมก็เกิดขึ้นง่ายขึ้น
2. ใช้เข่าหนักเกินกำลัง
บางอาชีพต้องยืนหรือเดินทั้งวัน เช่น ครู พนักงานบริการ พยาบาล รวมถึงงานที่ต้องยกของหนักซ้ำ ๆ สิ่งเหล่านี้เพิ่มแรงกดที่ข้อเข่ามากกว่าการเดินปกติ
3. การออกกำลังกายผิดวิธี
การออกกำลังกายเป็นเรื่องดี แต่หากเป็นกีฬาที่มีแรงกระแทกสูง เช่น วิ่งมาราธอน กระโดด หรือเล่นฟุตบอล อาจทำให้ผิวข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น โดยเฉพาะถ้าร่างกายยังไม่ได้รับการฝึกซ้อมหรือเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างเหมาะสม
4. น้ำหนักตัวเกิน
ทุกกิโลกรัมที่เกินมา จะสร้างแรงกดทับข้อเข่าเพิ่มขึ้น 3–4 เท่าเวลาขึ้นลงบันได คนวัยทำงานที่ไม่ค่อยออกกำลังกายและรับประทานอาหารไม่สมดุลจึงเสี่ยงสูง
5. อุบัติเหตุหรือบาดเจ็บในอดีต
คนที่เคยมีประวัติเอ็นเข่าฉีก หมอนรองกระดูกฉีก หรือกระดูกแตก มักมีโอกาสเกิดข้อเข่าเสื่อมเร็วกว่าคนทั่วไป
อาการข้อเข่าเสื่อมในวัยทำงาน
ต่างจากผู้สูงอายุที่อาการมักชัดเจน คนวัยทำงานมักเริ่มต้นจากอาการเล็ก ๆ ที่ถูกมองข้าม เช่น- ปวดเมื่อยเข่าหลังนั่งนาน ๆ หรือหลังเลิกงาน
- รู้สึกเข่าฝืด ต้องยืดก่อนลุกเดิน
- มีเสียง “ก๊อบแก๊บ” เวลาเดินเร็วหรือออกกำลังกาย
- เข่าบวมเล็กน้อยหลังใช้งานหนัก
- รู้สึกว่าข้อไม่มั่นคง เหมือนเข่าอ่อนแรง
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับข้อเข่าเสื่อม
- อายุยังน้อย ไม่มีทางเป็นข้อเข่าเสื่อม
- ข้อเข่าเสื่อมรักษาไม่หาย ต้องทนไปตลอด
- ออกกำลังกายมาก ๆ ป้องกันข้อเสื่อมได้เสมอ
การตรวจวินิจฉัย
แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจส่งตรวจเพิ่มเติม เช่น- X-ray ดูช่องว่างข้อเข่าที่แคบลงหรือกระดูกงอก
- MRI ตรวจการบาดเจ็บของกระดูกอ่อนหรือเอ็น
- Lab test เพื่อตัดโรคข้ออักเสบอื่น ๆ
แนวทางการดูแลข้อเข่าในวัยทำงาน
1. ปรับพฤติกรรมการนั่งทำงาน ลุกขึ้นยืดเหยียดทุก 1–2 ชั่วโมง ใช้โต๊ะปรับระดับ หรือทำ Workstation ที่เหมาะสม2. เสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบเข่า ออกกำลังกายง่าย ๆ เช่น Leg Raise, Bridge หรือใช้ยางยืดฝึกความแข็งแรง
3. เลือกการออกกำลังกายแรงกระแทกต่ำ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือเดินเร็วช่วยเผาผลาญพลังงานโดยไม่เพิ่มแรงกดที่เข่า
4. ควบคุมน้ำหนัก การลดน้ำหนักเพียง 5–10% ของน้ำหนักตัวสามารถลดแรงกดที่ข้อเข่าได้มาก
5. ใช้อุปกรณ์ช่วยพยุง ในบางกรณีอาจใช้สนับเข่าหรือไม้เท้าเพื่อช่วยลดแรงกดและเพิ่มความมั่นคง
การรักษา
- ยาและกายภาพบำบัด สำหรับผู้ที่มีอาการเริ่มต้น
- การฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่า (Hyaluronic Acid)** ช่วยเพิ่มความลื่นและลดอาการปวด
- การส่องกล้องข้อเข่า ใช้ในกรณีที่มีเศษกระดูกหรือหมอนรองกระดูกเสียหาย
- การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม สำหรับผู้ที่ข้อเสื่อมมากและรักษาวิธีอื่นไม่ได้ผล
ข้อเข่าเสื่อมไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะผู้สูงอายุ แต่สามารถเกิดขึ้นกับวัยทำงานได้เช่นกัน โดยเฉพาะคนที่นั่งนาน ใช้เข่าหนัก หรือมีน้ำหนักเกิน การใส่ใจสุขภาพเข่า ปรับพฤติกรรม และตรวจเช็กกับแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงและทำให้ข้อเข่าอยู่กับเราไปได้นาน
หากคุณเริ่มมีอาการปวดเข่า ฝืดเข่า หรือสงสัยว่าข้อเข่าเริ่มเสื่อม อย่ารอให้ปัญหาลุกลาม ควรเข้าพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินและวางแผนดูแลที่เหมาะสมกับคุณ
ศูนย์โรคกระดูกและข้อ
โทร. 0-2265-7777
ศูนย์รักษา: ศูนย์โรคกระดูกและข้อ
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 17/11/2025
แพทย์ผู้เขียน
นพ. นาวี อนุชาติบุตร
ความถนัดเฉพาะทาง
ศัลยแพทย์โรคกระดูกและข้อ





