ปวดท้องข้างซ้าย เกิดจากอะไร? รวมทุกสาเหตุและวิธีสังเกตอาการ
อาการบางอย่างที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เช่น ปวดท้องข้างซ้าย ถ่ายเป็นเลือด ปวดท้องเป็นช่วง ๆ หรือรู้สึกว่า “ถ่ายไม่สุด” อาจฟังดูเหมือนเป็นเรื่องของริดสีดวงหรือระบบย่อยอาหารทั่วไป แต่ในความเป็นจริง อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของ “มะเร็งลำไส้ใหญ่” ที่กำลังพัฒนาขึ้นเงียบ ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะหากคุณมีอายุเกิน 40 ปี หรือมีประวัติครอบครัวเคยเป็นโรคนี้ บทความนี้จะพาคุณรู้จักอาการที่ไม่ควรมองข้าม พร้อมแนวทางวินิจฉัยและการรักษาที่ทันสมัย ซึ่งหากรู้ทันและเริ่มรักษาโอกาสหายก็มีสูงมาก
1. การซักประวัติและตรวจร่างกาย: ประเมินลักษณะการ ปวดบิด ปวดจุก ปวดตื้อๆ และกดท้องซ้าย
2. การตรวจทางห้องปฏิบัติการ: ตรวจเลือดและปัสสาวะ เพื่อดูการติดเชื้อ เช่น ปีกมดลูกอักเสบ หรือความผิดปกติของไต เช่น นิ่วในไต
3. ภาพถ่ายทางรังสี: การทำ อัลตราซาวด์ช่องท้อง (Ultrasound) มีประโยชน์มากในการตรวจดูความผิดปกติของอวัยวะภายใน เช่น นิ่วในไต ช็อกโกแลตซีสต์ หรือการอักเสบของปีกมดลูก
4. การส่องกล้อง: หากแพทย์เฉพาะทางเดินอาหารสงสัยความผิดปกติของลำไส้ หรือมีสัญญาณอันตราย อาจแนะนำให้ทำการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) เพื่อวินิจฉัยลำไส้แปรปรวน (IBS) หรือตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจหามะเร็ง
หากกดแล้วเจ็บมากจนกล้ามเนื้อแข็งเกร็งถือเป็นสัญญาณอันตรายร้ายแรงที่บ่งชี้ว่าอาจมีการอักเสบหรือติดเชื้อรุนแรงภายในช่องท้อง ซึ่งต้องเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด การวินิจฉัยที่แน่นอนต้องอาศัยการตรวจร่างกายและอาจต้องตรวจเพิ่มเติม เช่น การทำอัลตราซาวด์ช่องท้องหรือการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy)ตามดุลยพินิจของแพทย์
สารบัญ
- ช่องท้องด้านซ้ายมีอวัยวะสำคัญอะไรบ้าง?
- ปวดท้องข้างซ้าย เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง?
- อาการปวดท้องข้างซ้ายแบบไหน ที่ควรสังเกตเป็นพิเศษ?
- ปวดท้องข้างซ้ายแบบไหนอันตราย? (สัญญาณเตือนที่ต้องรีบหาหมอ)
- แพทย์วินิจฉัยหาสาเหตุได้อย่างไร?
- คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ช่องท้องด้านซ้ายมีอวัยวะสำคัญอะไรบ้าง?
การระบุตำแหน่งของอาการ ปวดท้องด้านซ้าย จะช่วยจำกัดขอบเขตของอวัยวะที่เกี่ยวข้องได้ โดยบริเวณช่องท้องด้านซ้ายมีอวัยวะสำคัญหลายส่วน เช่น ม้าม กระเพาะอาหาร (ส่วนปลาย) ตับอ่อน (ส่วนหาง) ไตซ้าย ลำไส้ใหญ่ส่วนที่คดลง (Descending and Sigmoid Colon) รวมถึงมดลูกและปีกมดลูกซ้ายในผู้หญิง ดังนั้นอาการ ปวดท้องด้านซ้าย จึงสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ภาวะที่ไม่รุนแรงไปจนถึงสัญญาณอันตรายปวดท้องข้างซ้าย เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง?
อาการปวดท้องด้านซ้าย สามารถแบ่งตามระบบของอวัยวะได้ดังนี้
สาเหตุทั่วไป
อาการปวดท้อง จุกเสียด แน่นท้อง มักเกิดจากสาเหตุที่ไม่รุนแรง เช่น อาหารไม่ย่อย แก๊สในกระเพาะอาหาร หรือการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อสาเหตุจากระบบทางเดินอาหาร
- ลำไส้แปรปรวน (IBS): เป็นสาเหตุที่พบบ่อยผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องน้อยซ้าย หรือปวดท้องด้านซ้ายซ้ำ ๆ โดยอาจมีลักษณะปวดบิด ปวดจุก ปวดตื้อ ๆ สลับท้องผูกหรือท้องเสีย
- กระเพาะอาหารอักเสบ และกรดไหลย้อน: แม้อาการหลักจะอยู่ตรงกลางหรือด้านขวาบน แต่ความผิดปกติของกระเพาะอาหารก็สามารถทำให้รู้สึก ปวดท้องด้านซ้าย ได้บ้าง
- ลำไส้อักเสบ: มักมาพร้อมกับอาการปวดบิดและท้องเสีย
สาเหตุจากระบบทางเดินปัสสาวะ
อาการปวดท้องด้านซ้าย หรือปวดท้องน้อยซ้ายที่รุนแรงและมักร้าวไปด้านหลัง ถือเป็นอาการแสดงของนิ่วในไตสาเหตุจากระบบสืบพันธุ์
- ปีกมดลูกอักเสบ (PID): มักทำให้มีอาการปวดท้องน้อยซ้าย ร่วมกับมีไข้ คลื่นไส้อาเจียน
- ช็อกโกแลตซีสต์ (Endometriosis): สามารถทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อยซ้ายเรื้อรัง โดยเฉพาะในช่วงมีประจำเดือน
สาเหตุที่อาจร้ายแรง
อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะแรกมักคล้ายโรคทางเดินอาหารทั่วไป แต่หากมีอาการปวดท้องซ้ำ ๆ โดยเฉพาะบริเวณล่างซ้ายของหน้าท้อง ถ่ายเป็นเลือด หรือน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพบแพทย์อาการปวดท้องข้างซ้ายแบบไหน ที่ควรสังเกตเป็นพิเศษ?
อาการปวดท้องข้างซ้ายที่ควรสังเกต มีดังนี้- ปวดบิด ปวดจุก ปวดตื้อ ๆ ที่รุนแรงมาก หรือเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน โดยเฉพาะปวดท้องน้อยซ้ายและมีไข้ คลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณอันตรายของการติดเชื้อหรือการอักเสบ เช่น ปีกมดลูกอักเสบหรือการติดเชื้อในลำไส้
- อาการปวดที่ร้าวไปด้านหลังถือเป็นลักษณะเฉพาะของนิ่วในไตที่ควรได้รับการประเมินทันที
- อาการปวดท้องด้านซ้ายของคุณเป็นแบบปวดตื้อๆเรื้อรัง สลับกับอาการท้องผูก/ท้องเสีย และสัมพันธ์กับความเครียดหรืออาหารที่รับประทานโดยที่ตรวจไม่พบความผิดปกติที่ชัดเจนจากการอัลตราซาวด์ช่องท้องอาจเป็นอาการที่เข้าข่ายลำไส้แปรปรวน (IBS) ที่ต้องใช้การปรับพฤติกรรมและการดูแลเฉพาะทาง
- อาการปวดท้องร่วมกับน้ำหนักลด ถ่ายเป็นเลือด หรือปวดท้องด้านซ้ายแล้วไม่หายไปเอง ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น ส่องกล้องกระเพาะอาหารหรือส่องกล้องลำไส้ใหญ่
ปวดท้องข้างซ้ายแบบไหนอันตราย? (สัญญาณเตือนที่ต้องรีบหาหมอ)
อาการปวดท้องด้านซ้ายที่ควรสังเกตและต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที:- ปวดรุนแรงเฉียบพลัน: ปวดบิด หรือปวดจุก อย่างหนักที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
- อาการร่วม: มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน รุนแรง หรืออาเจียนเป็นเลือด
- ลักษณะอุจจาระผิดปกติ: ถ่ายเป็นเลือด หรือถ่ายดำ
- อาการเรื้อรังร่วมน้ำหนักลด: ปวดท้องด้านซ้าย หรือ ปวดท้องน้อยซ้ายเรื้อรัง ร่วมกับน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ หรืออาการถ่ายเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
แพทย์วินิจฉัยหาสาเหตุได้อย่างไร?
เมื่อผู้ป่วยมาพบแพทย์เฉพาะทางเดินอาหาร หรือแพทย์เฉพาะทางอื่น ๆ เช่น สูตินรีแพทย์ หรือศัลยแพทย์ แพทย์จะใช้หลายวิธีในการวินิจฉัย สาเหตุ ของ อาการ ปวดท้องด้านซ้าย:1. การซักประวัติและตรวจร่างกาย: ประเมินลักษณะการ ปวดบิด ปวดจุก ปวดตื้อๆ และกดท้องซ้าย
2. การตรวจทางห้องปฏิบัติการ: ตรวจเลือดและปัสสาวะ เพื่อดูการติดเชื้อ เช่น ปีกมดลูกอักเสบ หรือความผิดปกติของไต เช่น นิ่วในไต
3. ภาพถ่ายทางรังสี: การทำ อัลตราซาวด์ช่องท้อง (Ultrasound) มีประโยชน์มากในการตรวจดูความผิดปกติของอวัยวะภายใน เช่น นิ่วในไต ช็อกโกแลตซีสต์ หรือการอักเสบของปีกมดลูก
4. การส่องกล้อง: หากแพทย์เฉพาะทางเดินอาหารสงสัยความผิดปกติของลำไส้ หรือมีสัญญาณอันตราย อาจแนะนำให้ทำการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) เพื่อวินิจฉัยลำไส้แปรปรวน (IBS) หรือตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจหามะเร็ง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ปวดท้องข้างซ้ายร้าวไปหลัง เกิดจากอะไร?
อาการปวดท้องด้านซ้ายที่มีลักษณะร้าวไปด้านหลัง ถือเป็นอาการสำคัญที่มักบ่งชี้ถึงความผิดปกติของอวัยวะที่อยู่ด้านหลังช่องท้อง ได้แก่ ไต และตับอ่อน สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด คือ นิ่วในไตหรือกรวยไตอักเสบ โดยอาการปวดจากนิ่วในไตมักมีลักษณะปวดบิด ปวดจุกอย่างรุนแรงและเป็นพักๆ (Colicky pain) เริ่มจากบริเวณสีข้างซ้ายแล้วร้าวลงไปที่ขาหนีบหรือหลัง แต่หากอาการปวดดังกล่าวมีไข้และหนาวสั่นร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณอันตรายของกรวยไตอักเสบ ซึ่งต้องรีบพบแพทย์ทันที นอกจากนี้ อาการปวดตับอ่อนอักเสบก็สามารถทำให้เกิดอาการปวดท้องด้านซ้ายร้าวไปด้านหลังได้เช่นกันผู้หญิงปวดท้องน้อยซ้ายบ่อยๆ ผิดปกติไหม?
หากมีอาการปวดท้องน้อยข้างซ้ายบ่อยๆ ในผู้หญิงถือว่าผิดปกติ และควรได้รับการตรวจประเมิน เนื่องจากบริเวณนี้เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์เพศหญิงโดยตรงกดท้องข้างซ้ายแล้วเจ็บ หมายถึงอะไร?
การกดท้องข้างซ้ายแล้วเจ็บ (Tenderness or Pain on Palpation) เป็นอาการสำคัญที่ช่วยให้แพทย์ระบุตำแหน่งของการอักเสบได้ ถ้ากดเจ็บบริเวณช่องท้องด้านซ้ายบนอาจเกี่ยวข้องกับกระเพาะอาหารอักเสบหรือปัญหาลำไส้ใหญ่ส่วนต้น ส่วนการกดเจ็บบริเวณปวดท้องน้อยซ้ายมักเกี่ยวข้องกับการอักเสบของลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย เช่น ลำไส้แปรปรวน (IBS) ลำไส้อักเสบ หรือปีกมดลูกอักเสบหากกดแล้วเจ็บมากจนกล้ามเนื้อแข็งเกร็งถือเป็นสัญญาณอันตรายร้ายแรงที่บ่งชี้ว่าอาจมีการอักเสบหรือติดเชื้อรุนแรงภายในช่องท้อง ซึ่งต้องเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด การวินิจฉัยที่แน่นอนต้องอาศัยการตรวจร่างกายและอาจต้องตรวจเพิ่มเติม เช่น การทำอัลตราซาวด์ช่องท้องหรือการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy)ตามดุลยพินิจของแพทย์
ศูนย์รักษา: ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 02/08/2025
แพทย์ผู้เขียน
นพ. ภูริกร เฟื่องวรรธนะ
ความถนัดเฉพาะทาง
อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหาร





