เข้าใจสาเหตุให้ลึกขึ้น กรดไหลย้อนไม่ใช่แค่เรื่อง “กรด”
หลายคนเข้าใจว่าโรคกรดไหลย้อนเกิดจาก "กรดมากเกินไป" แต่ในความเป็นจริง จุดสำคัญอยู่ที่กล้ามเนื้อ หูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง (Lower Esophageal Sphincter – LES) เมื่อกล้ามเนื้อนี้อ่อนแรงหรือทำงานผิดปกติ กรดในกระเพาะจึงไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหารได้ง่าย
ปัจจัยกระตุ้นอาการที่พบบ่อย ได้แก่
ปรับพฤติกรรมเพื่อฟื้นฟูระยะยาว
“กรดไหลย้อนรักษาได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่กับยาไปตลอดชีวิต เพียงแค่เริ่มต้นตรวจอย่างเข้าใจตั้งแต่วันนี้”
ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
โทร. 0-2265-7777
ปัจจัยกระตุ้นอาการที่พบบ่อย ได้แก่
- กินอาหารแล้วนอนทันที
- ดื่มชา กาแฟ หรือแอลกอฮอล์บ่อย
- โกโก้ ช็อกโกแลต
- ความเครียดสะสม
- ท้องอืดจากอาหารที่ไม่ย่อย
ยาลดกรดไหลย้อน: ช่วยบรรเทาอาการ แต่ไม่ใช่คำตอบระยะยาว
ยากลุ่ม PPI (Proton Pump Inhibitor) และ H2 Blocker มีประโยชน์ในช่วงที่อาการกำเริบ ช่วยลดการหลั่งกรดและบรรเทาอาการได้เร็ว แต่หากใช้ต่อเนื่องโดยไม่เข้าใจต้นเหตุ อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น- ภาวะขาดวิตามิน B12
- กระดูกพรุนจากแคลเซียมดูดซึมลดลง
- เสี่ยงการติดเชื้อในลำไส้
- กรดพุ่งกลับทันทีหลังหยุดยา (Rebound Acid)
รักษาให้ตรงจุด ต้องเริ่มจากการวินิจฉัยที่แม่นยำ
การรักษาอย่างยั่งยืนต้องรู้ว่าต้นเหตุของกรดไหลย้อนในแต่ละคนคืออะไร เช่น- หูรูดหลอดอาหารอ่อนแรง
- ไส้เลื่อนกระบังลม
- กระเพาะอาหารบีบตัวน้อยกว่าปกติ
- พฤติกรรมเรื้อรังที่กระตุ้นกรด
การตรวจเฉพาะทางที่ช่วยหาสาเหตุ ได้แก่
- การส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนต้น
- การตรวจวัดระดับกรด (24-hour pH Monitoring)
- การวัดการบีบตัวของหลอดอาหาร (Esophageal Manometry)
ปรับพฤติกรรมเพื่อฟื้นฟูระยะยาว
- หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้นกรด (ชา กาแฟ รสจัด รสเผ็ด รสเปรี้ยว)
- ลดของมัน ของทอด
- งดโกโก้ ช็อกโกแลต
- กินน้อยแต่บ่อย เคี้ยวช้า และไม่กินก่อนนอน
- ยกหัวเตียง ไม่ใส่เสื้อรัดหน้าท้อง และลดน้ำหนัก
- จัดการความเครียดด้วยการหายใจลึก นั่งสมาธิ หรือออกกำลังกายเบา ๆ
“กรดไหลย้อนรักษาได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่กับยาไปตลอดชีวิต เพียงแค่เริ่มต้นตรวจอย่างเข้าใจตั้งแต่วันนี้”
ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
โทร. 0-2265-7777
ศูนย์รักษา: ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 21/09/2025
แพทย์ผู้เขียน
นพ. ฉัตรชัย เกรียงกิรากูร

ความถนัดเฉพาะทาง
แพทย์ทางด้านโรคระบบทางเดินอาหาร