ตรวจไขมันพอกตับ ต้องเจาะอะไรบ้าง? เจ็บไหม? ใช้เวลานานหรือไม่?
หากคุณเพิ่งรู้ว่าตัวเองมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น นอนดึก ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ กินหวานมาก หรือไม่ค่อยออกกำลังกาย แล้วเริ่มสงสัยว่า "จะมีไขมันพอกตับหรือเปล่า?" หนึ่งในคำถามที่คนไข้ถามหมอบ่อยที่สุดคือ “ต้องตรวจอะไรบ้างคะหมอ?” “เจ็บไหม?” หรือ “ตรวจตับใช้เวลานานหรือเปล่า?” วันนี้หมอจะมาเล่าให้ฟัง เพื่อให้คุณพร้อมเริ่มต้นดูแลตับได้ง่ายขึ้น
ตรวจไขมันพอกตับ เริ่มจากอะไร?
• ค่าที่ตรวจหลักคือ AST (Aspartate aminotransferase) และ ALT (Alanine aminotransferase)
• หากค่าสูงกว่าปกติ อาจบ่งชี้ว่าเริ่มมีการอักเสบของตับ
- ใช้เวลา: เจาะเลือดประมาณ 5 นาที รอผลไม่เกิน 1 ชั่วโมง
- เจ็บหรือไม่? เจ็บเล็กน้อยเหมือนเจาะเลือดทั่วไป
- เตรียมตัวอย่างไร? ไม่ต้องงดน้ำงดอาหาร (ขึ้นกับแพทย์)
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าตับผิดปกติ หรือมีความเสี่ยงจากพฤติกรรม
• สามารถเห็น “ไขมันเกาะตับ” รูปร่างตับในภาพรวม รวมถึงก้อนเนื้อภายในตับ
- ใช้เวลา: 10–15 นาที รอผลประมาณ 1 ชั่วโมง
- เจ็บหรือไม่? ไม่เจ็บเลย เป็นการตรวจจากภายนอกหน้าท้อง
- เตรียมตัวอย่างไร? อาจต้องงดน้ำหรืออาหารล่วงหน้า 6 ชั่วโมง (ตามคำแนะนำแพทย์)
• คล้ายการอัลตราซาวด์ แต่ให้ข้อมูลละเอียดขึ้น เช่น การประเมินพังผืดที่ตับ
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการประเมินความรุนแรงของโรค หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น ผู้มีเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง น้ำหนักเกิน
- ใช้เวลา: 10–20 นาที สามารถรอฟังผลได้เลยหลังการตรวจ
- เจ็บหรือไม่? ไม่เจ็บเลย ไม่ต้องเจาะเลือด ไม่ใช้รังสี
- เตรียมตัวอย่างไร? งดอาหารก่อนตรวจประมาณ 3–6 ชั่วโมง
• ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
• น้ำหนักเกิน หรือมีภาวะอ้วนลงพุง
• เป็นเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หรือความดันโลหิตสูง
• พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีความเครียดเรื้อรัง
• ตรวจสุขภาพประจำปีแล้วพบค่าตับผิดปกติ
• ปรับพฤติกรรม เช่น ลดอาหารมัน หวาน แอลกอฮอล์
• เพิ่มการออกกำลังกายสม่ำเสมอ
• พักผ่อนให้เพียงพอ และจัดการความเครียด
• ตรวจติดตามผลเลือดและภาพตับอย่างต่อเนื่อง
• ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อวางแผนการดูแลเฉพาะบุคคล
อย่ารอให้โรคพัฒนาไปสู่ “ตับอักเสบ” “ตับแข็ง” หรือ “มะเร็งตับ” เพราะเมื่อถึงเวลานั้น ตับอาจเสียหายจนแก้ไขไม่ได้
ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
โทร. 0-2265-7777
ตรวจไขมันพอกตับ เริ่มจากอะไร?
1. เจาะเลือดดูค่าการทำงานของตับ (AST, ALT)
• เป็นการตรวจเบื้องต้นที่ใช้ดูว่าตับมีความผิดปกติหรือไม่• ค่าที่ตรวจหลักคือ AST (Aspartate aminotransferase) และ ALT (Alanine aminotransferase)
• หากค่าสูงกว่าปกติ อาจบ่งชี้ว่าเริ่มมีการอักเสบของตับ
- ใช้เวลา: เจาะเลือดประมาณ 5 นาที รอผลไม่เกิน 1 ชั่วโมง
- เจ็บหรือไม่? เจ็บเล็กน้อยเหมือนเจาะเลือดทั่วไป
- เตรียมตัวอย่างไร? ไม่ต้องงดน้ำงดอาหาร (ขึ้นกับแพทย์)
2. อัลตราซาวด์ตับ (Ultrasound)
• ใช้คลื่นเสียงตรวจภาพตับว่ามีไขมันสะสมหรือไม่• เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าตับผิดปกติ หรือมีความเสี่ยงจากพฤติกรรม
• สามารถเห็น “ไขมันเกาะตับ” รูปร่างตับในภาพรวม รวมถึงก้อนเนื้อภายในตับ
- ใช้เวลา: 10–15 นาที รอผลประมาณ 1 ชั่วโมง
- เจ็บหรือไม่? ไม่เจ็บเลย เป็นการตรวจจากภายนอกหน้าท้อง
- เตรียมตัวอย่างไร? อาจต้องงดน้ำหรืออาหารล่วงหน้า 6 ชั่วโมง (ตามคำแนะนำแพทย์)
3. FibroScan ตรวจพังผืดและปริมาณไขมันในตับ
• เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้วัดค่าความแข็ง (พังผืด) และไขมันในตับโดยตรง• คล้ายการอัลตราซาวด์ แต่ให้ข้อมูลละเอียดขึ้น เช่น การประเมินพังผืดที่ตับ
• เหมาะกับผู้ที่ต้องการประเมินความรุนแรงของโรค หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น ผู้มีเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง น้ำหนักเกิน
- ใช้เวลา: 10–20 นาที สามารถรอฟังผลได้เลยหลังการตรวจ
- เจ็บหรือไม่? ไม่เจ็บเลย ไม่ต้องเจาะเลือด ไม่ใช้รังสี
- เตรียมตัวอย่างไร? งดอาหารก่อนตรวจประมาณ 3–6 ชั่วโมง
แล้วควรตรวจเมื่อไร?
หมอแนะนำให้ เริ่มตรวจสุขภาพตับ หากคุณมีปัจจัยเสี่ยง เช่น• ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
• น้ำหนักเกิน หรือมีภาวะอ้วนลงพุง
• เป็นเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หรือความดันโลหิตสูง
• พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีความเครียดเรื้อรัง
• ตรวจสุขภาพประจำปีแล้วพบค่าตับผิดปกติ
ดูแลตับต่ออย่างไรดี?
หากพบว่าคุณมีภาวะไขมันพอกตับ หรือค่าตับผิดปกติ หมอแนะนำให้• ปรับพฤติกรรม เช่น ลดอาหารมัน หวาน แอลกอฮอล์
• เพิ่มการออกกำลังกายสม่ำเสมอ
• พักผ่อนให้เพียงพอ และจัดการความเครียด
• ตรวจติดตามผลเลือดและภาพตับอย่างต่อเนื่อง
• ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อวางแผนการดูแลเฉพาะบุคคล
รู้เร็ว ดูแลเร็ว ตับฟื้นตัวได้
ไขมันพอกตับในระยะแรกสามารถ “กลับมาสู่ภาวะปกติได้” หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและต่อเนื่องอย่ารอให้โรคพัฒนาไปสู่ “ตับอักเสบ” “ตับแข็ง” หรือ “มะเร็งตับ” เพราะเมื่อถึงเวลานั้น ตับอาจเสียหายจนแก้ไขไม่ได้
ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
โทร. 0-2265-7777
ศูนย์รักษา: ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 01/08/2025
แพทย์ผู้เขียน
นพ. วราวุฒิ บูรณวุฒิ

ความถนัดเฉพาะทาง
แพทย์ทางด้านโรคระบบทางเดินอาหาร