ทำไม “นิ่วในถุงน้ำดี” พบบ่อยในผู้หญิงวัย 40+ และคนที่ลดน้ำหนักเร็ว?
คุณอาจเคยสงสัยว่า...
“ไม่กินของมัน ไม่เคยอ้วน ทำไมนิ่วขึ้นถุงน้ำดี?”
หรือบางคนที่กำลังลดน้ำหนักอย่างจริงจัง อาจประหลาดใจว่า…
“ยิ่งดูแลสุขภาพกลับยิ่งแน่นท้องบ่อย?”
ความจริงคือ นิ่วในถุงน้ำดี ไม่ได้เกิดแค่กับคนที่ทานอาหารมัน ๆ เท่านั้น แต่กลับพบได้บ่อยใน ผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไป และ คนที่ลดน้ำหนักเร็ว ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่หลายคนไม่เคยรู้ตัวเลยค่ะ
ปัจจัยกระตุ้นให้เกิดนิ่วมีทั้ง
• ความเข้มข้นของน้ำดี (โดยเฉพาะคอเลสเตอรอลสูง)
• การไหลเวียนที่ช้าลงของน้ำดีในถุงน้ำดี
• การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย
สาเหตุหลักคือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่ง
• เพิ่มระดับคอเลสเตอรอลในน้ำดี
• ทำให้การบีบตัวของถุงน้ำดีช้าลง
• เพิ่มความเสี่ยงของการตกตะกอนในน้ำดี
ยิ่งผู้หญิงที่เคยตั้งครรภ์หลายครั้ง หรือใช้ยาคุมกำเนิด/ฮอร์โมนเสริม ยิ่งเพิ่มโอกาสเกิดนิ่วได้มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
• เมื่อร่างกายขาดไขมัน → ถุงน้ำดีแทบไม่ถูกกระตุ้นให้บีบตัว
• น้ำดีจึง “ค้าง” อยู่ในถุงนานเกินไป และตกตะกอนได้
• ร่างกายบางคนยังปรับตัวไม่ทัน ทำให้สมดุลในน้ำดีผิดปกติ
ลดน้ำหนักเร็วเกินไป (เกิน 1.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์) ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงทางการแพทย์ที่ยืนยันชัดเจนว่า “เพิ่มโอกาสเกิดนิ่วในถุงน้ำดี” ได้
หากคุณอยู่ในกลุ่มต่อไปนี้ แนะนำให้เฝ้าระวังและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดค่ะ:
• ผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป
• เคยตั้งครรภ์หลายครั้ง หรือใช้ฮอร์โมนเสริม
• มีประวัติคนในครอบครัวเป็นนิ่ว
• กำลังลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
• ทานอาหารน้อย หรือเน้นโปรตีน ไขมันต่ำมาก
• มีอาการแน่นท้องหลังมื้ออาหารมัน
• ทานอาหารมัน ของทอด เป็นประจำ
หากตรวจพบว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดี และมีอาการรบกวน แพทย์อาจแนะนำให้ ผ่าตัดผ่านกล้องแบบแผลเล็ก ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยและฟื้นตัวไว
นอกจากนี้สามารถ ลดความเสี่ยง ได้ด้วย
• ไม่ลดน้ำหนักเร็วเกินไป
• ทานอาหารไขมันดีในปริมาณที่เหมาะสม
• ไม่งดมื้ออาหารนานเกินไป
• ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะผู้หญิงวัย 40+
นิ่วในถุงน้ำดีอาจไม่ได้แสดงอาการรุนแรงในช่วงแรก แต่หากปล่อยไว้อาจลุกลามจนต้องผ่าตัดฉุกเฉิน "หากตรวจพบเร็ว โอกาสรักษาให้หายขาดและปลอดภัยมีสูงมาก"
"อย่ารอจนปวดรุนแรง หรืออักเสบ"
การตรวจตั้งแต่เนิ่น ๆ คือทางเลือกที่ดีที่สุด
ศูนย์ศัลยกรรม
โทร. 0-2265-7777
“ไม่กินของมัน ไม่เคยอ้วน ทำไมนิ่วขึ้นถุงน้ำดี?”
หรือบางคนที่กำลังลดน้ำหนักอย่างจริงจัง อาจประหลาดใจว่า…
“ยิ่งดูแลสุขภาพกลับยิ่งแน่นท้องบ่อย?”
ความจริงคือ นิ่วในถุงน้ำดี ไม่ได้เกิดแค่กับคนที่ทานอาหารมัน ๆ เท่านั้น แต่กลับพบได้บ่อยใน ผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไป และ คนที่ลดน้ำหนักเร็ว ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่หลายคนไม่เคยรู้ตัวเลยค่ะ
กลไกการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี
ถุงน้ำดีเป็นอวัยวะเล็ก ๆ ใต้ตับ ทำหน้าที่เก็บ “น้ำดี” ที่ผลิตจากตับไว้ใช้ย่อยไขมัน เมื่อน้ำดีมีคอเลสเตอรอลมากเกินไป หรือน้ำดีคั่งนานโดยไม่ถูกใช้งาน → จะเกิดการตกตะกอนและกลายเป็น นิ่ว ได้ในที่สุดปัจจัยกระตุ้นให้เกิดนิ่วมีทั้ง
• ความเข้มข้นของน้ำดี (โดยเฉพาะคอเลสเตอรอลสูง)
• การไหลเวียนที่ช้าลงของน้ำดีในถุงน้ำดี
• การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย
ฮอร์โมนเพศหญิงเกี่ยวข้องยังไง?
เพศหญิงมีโอกาสเป็นนิ่วในถุงน้ำดีมากกว่าเพศชายถึง 2–3 เท่า โดยเฉพาะช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือวัยที่ฮอร์โมนเริ่มเปลี่ยนแปลงสาเหตุหลักคือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่ง
• เพิ่มระดับคอเลสเตอรอลในน้ำดี
• ทำให้การบีบตัวของถุงน้ำดีช้าลง
• เพิ่มความเสี่ยงของการตกตะกอนในน้ำดี
ยิ่งผู้หญิงที่เคยตั้งครรภ์หลายครั้ง หรือใช้ยาคุมกำเนิด/ฮอร์โมนเสริม ยิ่งเพิ่มโอกาสเกิดนิ่วได้มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ลดน้ำหนักเร็วทำไมถึงเสี่ยง?
คนที่ลดน้ำหนักเร็วมาก ๆ ไม่ว่าจะใช้วิธี IF (Intermittent Fasting), Keto, งดมื้ออาหาร,การฉีดยาช่วยลดน้ำหนัก หรือกินอาหารไขมันต่ำจัด ๆ ล้วนเสี่ยงครับ เพราะ:• เมื่อร่างกายขาดไขมัน → ถุงน้ำดีแทบไม่ถูกกระตุ้นให้บีบตัว
• น้ำดีจึง “ค้าง” อยู่ในถุงนานเกินไป และตกตะกอนได้
• ร่างกายบางคนยังปรับตัวไม่ทัน ทำให้สมดุลในน้ำดีผิดปกติ
ลดน้ำหนักเร็วเกินไป (เกิน 1.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์) ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงทางการแพทย์ที่ยืนยันชัดเจนว่า “เพิ่มโอกาสเกิดนิ่วในถุงน้ำดี” ได้
ใครบ้างควรระวังเป็นพิเศษ
หากคุณอยู่ในกลุ่มต่อไปนี้ แนะนำให้เฝ้าระวังและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดค่ะ:• ผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป
• เคยตั้งครรภ์หลายครั้ง หรือใช้ฮอร์โมนเสริม
• มีประวัติคนในครอบครัวเป็นนิ่ว
• กำลังลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
• ทานอาหารน้อย หรือเน้นโปรตีน ไขมันต่ำมาก
• มีอาการแน่นท้องหลังมื้ออาหารมัน
• ทานอาหารมัน ของทอด เป็นประจำ
ตรวจอย่างไร ป้องกันได้ไหม?
การตรวจอัลตราซาวนด์ช่องท้อง (Ultrasound) เป็นวิธีที่ง่าย ไม่เจ็บ และให้ผลแม่นยำในการตรวจหานิ่ว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการแน่นท้องบ่อย หรือมีปัจจัยเสี่ยงที่กล่าวมาข้างต้นหากตรวจพบว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดี และมีอาการรบกวน แพทย์อาจแนะนำให้ ผ่าตัดผ่านกล้องแบบแผลเล็ก ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยและฟื้นตัวไว
นอกจากนี้สามารถ ลดความเสี่ยง ได้ด้วย
• ไม่ลดน้ำหนักเร็วเกินไป
• ทานอาหารไขมันดีในปริมาณที่เหมาะสม
• ไม่งดมื้ออาหารนานเกินไป
• ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะผู้หญิงวัย 40+
คำแนะนำจากแพทย์เฉพาะทาง
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ ลดน้ำหนักเร็ว หรือเป็น ผู้หญิงวัย 40+ ที่เริ่มมีอาการแน่นท้องหลังกินของทอด บ่อย ๆ… อย่ามองว่าเป็นเรื่องเล็กนิ่วในถุงน้ำดีอาจไม่ได้แสดงอาการรุนแรงในช่วงแรก แต่หากปล่อยไว้อาจลุกลามจนต้องผ่าตัดฉุกเฉิน "หากตรวจพบเร็ว โอกาสรักษาให้หายขาดและปลอดภัยมีสูงมาก"
"อย่ารอจนปวดรุนแรง หรืออักเสบ"
การตรวจตั้งแต่เนิ่น ๆ คือทางเลือกที่ดีที่สุด
ศูนย์ศัลยกรรม
โทร. 0-2265-7777
ศูนย์รักษา: ศูนย์ศัลยกรรม
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 10/08/2025
แพทย์ผู้เขียน
พญ. ชลลดา ครุฑศรี

ความถนัดเฉพาะทาง
ศัลยแพทย์ทั่วไป-เต้านม