ท้องอืด ถ่ายเป็นน้ำ อาหารไม่ย่อย? สาเหตุ อาการ และวิธีแก้เบื้องต้น
คุณเคยรู้สึกแบบนี้ไหมครับ...กินข้าวกลางวันไปไม่นาน ก็แน่นท้อง อึดอัด บางทีก็จุกกลางลำตัว หรือเสียด ๆ ตอนเช้า ทั้งที่ไม่ได้กินเผ็ด กินดึก หรือของแสลงเลย
หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กหรือโทษตัวเองว่า “คงเครียด พักผ่อนน้อย กินเร็วอีกแล้ว”แต่อาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณของโรคที่หลายคนยังไม่รู้จักดี โรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome: IBS)
ลักษณะสำคัญของโรคนี้คือ ความผิดปกติในการทำงานของระบบประสาทลำไส้ ที่ควบคุมการบีบตัว การเคลื่อนตัว และความรู้สึกภายในช่องท้อง เมื่อระบบนี้ผิดจังหวะ ก็เกิดอาการต่าง ๆ เช่น
ท้องอืด: จะให้ยาขับลมที่มีส่วนผสมในการช่วยลดแรงตึงผิวของแก๊สในทางเดินอาหาร หรือใช้เอนไซม์ช่วยย่อย
ไวรัสโรต้า: เป็นการติดเชื้อไวรัสที่มักพบระบาดในกลุ่มเด็กเล็ก แต่สามารถเกิดในผู้ใหญ่ได้เช่นกัน ผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำรุนแรง และปริมาณมาก มักมีอาเจียนและไข้สูงนำมาก่อน ถ้าถามว่าอาการ ถ่ายเหลวเป็นน้ํา กี่วันหาย มักจะนานกว่า คือประมาณ 5-7 วัน โดยการรักษาเน้นที่การชดเชยเกลือแร่ (ORS) เป็นหลัก เนื่องจากไวรัสไม่มียาฆ่าเชื้อเฉพาะ
อาหารเป็นพิษ: ส่วนใหญ่มักเกิดจากแบคทีเรียหรือสารพิษที่ปนเปื้อนในอาหารที่ไม่ถูกสุขอนามัย โดยอาการจะเกิดขึ้นค่อนข้างเร็วหลังรับประกินอาหารที่ปนเปื้อน ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องบิดอย่างรุนแรง คลื่นไส้อาเจียน และท้องเสียเฉียบพลันเป็นอาการนำ โดยทั่วไปมักหายได้เองภายใน 1-3 วัน หากอาการไม่รุนแรง หากมีอาการรุนแรงหรืออาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทางเดินอาหารเพื่อประเมินว่าจำเป็นต้องใช้ยาฆ่าเชื้อหรือไม่
หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กหรือโทษตัวเองว่า “คงเครียด พักผ่อนน้อย กินเร็วอีกแล้ว”แต่อาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณของโรคที่หลายคนยังไม่รู้จักดี โรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome: IBS)
สารบัญ
- ท้องอืด ท้องเสียบ่อยๆ ใช่ลำไส้แปรปรวน (IBS) หรือเปล่า?
- ท้องเสีย ถ่ายเป็นน้ำ เกิดจากอะไรได้บ้าง?
- เช็กอาการ ท้องอืด ท้องเสียแบบไหนที่เข้าข่าย IBS?
- วิธีแก้เบื้องต้นเมื่อมีอาการท้องเสีย หรือ ท้องอืด
- ท้องอืด ถ่ายเป็นน้ำ อาจไม่ใช่แค่ IBS?
- คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ท้องอืด ท้องเสียบ่อยๆ ใช่ลำไส้แปรปรวน (IBS) หรือเปล่า?
โรคลำไส้แปรปรวน (IBS) เป็นภาวะที่ผู้ป่วยจะมีอาการจริง เจ็บจริง เช่น ท้องเสียเฉียบพลัน ปวดท้องบิด หรือท้องผูกเรื้อรังอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่ใช่การอักเสบ ไม่ใช่มะเร็ง และไม่สามารถตรวจพบด้วยเอกซเรย์หรือส่องกล้องทั่วไปได้ลักษณะสำคัญของโรคนี้คือ ความผิดปกติในการทำงานของระบบประสาทลำไส้ ที่ควบคุมการบีบตัว การเคลื่อนตัว และความรู้สึกภายในช่องท้อง เมื่อระบบนี้ผิดจังหวะ ก็เกิดอาการต่าง ๆ เช่น
- แน่นท้อง หรือจุกลิ้นปี่
- เสียดท้องโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ท้องผูกสลับท้องเสีย หรือถ่ายบ่อย
- ถ่ายไม่สุด รู้สึกต้องกลับไปถ่ายซ้ำอีก
ท้องเสีย ถ่ายเป็นน้ำ เกิดจากอะไรได้บ้าง?
ท้องเสีย ถ่ายเป็นน้ำ อาจเกิดจากหลายสาเหตุ หากเป็นแบบท้องเสียเฉียบพลัน ร่วมกับปวดท้องบิด และมีอาการคลื่นไส้อาเจียน มักเกิดจากอาหารเป็นพิษ หรือการติดเชื้อจากการขาดสุขอนามัยที่ดี แต่ในกลุ่มวัยทำงานและนักศึกษา จากประสบการณ์ของแพทย์ พบว่ามักมีพฤติกรรมที่กระตุ้นอาการของ IBS โดยไม่รู้ตัว ได้แก่- กินเร็ว เคี้ยวไม่ละเอียด
เพิ่มอากาศเข้าไปในระบบทางเดินอาหารแบบไม่จำเป็น ทำให้เกิดแก๊สสะสม นำไปสู่อาการจุกเสียด แน่นท้อง และเรอ ผายลมบ่อย - เครียดบ่อย
สมอง–ลำไส้เชื่อมกันผ่านเส้นประสาท กระตุ้นให้เกิดลำไส้แปรปรวน - พักผ่อนน้อย
ส่งผลต่อระบบประสาทอัตโนมัติ ร่างกายรวน ลำไส้จึงทำงานผิดจังหวะ - ดื่มกาแฟจัด หวานจัด
คาเฟอีนและน้ำตาลสูง อาจกระตุ้นลำไส้ให้ทำงานไวเกินไป - ไม่ค่อยขยับร่างกาย
ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้นเมื่อร่างกายมีการเคลื่อนไหว
เช็กอาการ ท้องอืด ท้องเสียแบบไหนที่เข้าข่าย IBS?
หากมีอาการเหล่านี้ร่วมกับปัญหา อาหารไม่ย่อย (Dyspepsia) นานกว่า 3 เดือน และตรวจไม่พบโรคอื่นที่ชัดเจน มีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นโรคลำไส้แปรปรวน (IBS) ครับ- ท้องอืด แน่นท้องบ่อย
- ปวดท้องดีขึ้นหลังขับถ่าย
- ถ่ายเหลว ในตอนเช้า หรือท้องผูกสลับถ่ายบ่อย
- รู้สึกไม่สบายท้องซ้ำ ๆ โดยไม่มีสาเหตุ
- อาการสัมพันธ์กับความเครียดหรือพฤติกรรมเดิม ๆ
วิธีแก้เบื้องต้นเมื่อมีอาการท้องเสีย หรือ ท้องอืด
โรคลำไส้แปรปรวน (IBS) แม้รักษาไม่หายขาด แต่สามารถควบคุมอาการให้ดีขึ้นได้ ด้วยการดูแลที่เหมาะสม:- เคี้ยวช้า – หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้น
หากมีอาการท้องเสียเฉียบพลัน ควรทานอาหารอ่อน ชดเชยภาวะขาดน้ำด้วยเกลือแร่ (ORS) และอาจใช้ยาแก้ท้องเสีย แต่สำหรับ IBS ควรหลีกเลี่ยงของทอด นมวัว น้ำตาลแอลกอฮอล์ - รู้จักกลุ่ม FODMAPs
เช่น หอม กระเทียม แอปเปิ้ล ถั่วบางชนิด บางคนอาจไวต่ออาหารเหล่านี้ - ลดความเครียด – เพิ่มการเคลื่อนไหว
หายใจลึก เดินเบา ๆ ฝึกสมาธิ พักผ่อนให้เพียงพอ - จดบันทึกอาการและอาหารที่กิน
เพื่อเชื่อมโยงสิ่งที่กระตุ้นอาการได้แม่นยำขึ้น หากมีอาการ ท้องอืด บ่อยๆ อาจใช้ยาธาตุ ยาแก้ท้องอืดช่วยบรรเทาอาการ
ท้องเสีย ท้องอืด ควรกินอะไร และห้ามกินอะไรบ้าง?
ควรกินอาหารอ่อน ย่อยง่าย และมีกากใยต่ำ เพื่อให้ลำไส้ได้พักและลดการกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ อาหารที่แนะนำได้แก่ ข้าวต้ม โจ๊ก เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เช่น ปลา เนื้อไก่ลอกหนังต้มหรือนึ่ง ผักต้มเปื่อย ๆ หรือกล้วยน้ำว้าหรือกล้วยหอมสุก และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสจัด เผ็ด เปรี้ยว หวานจัด เพราะจะกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้และทำให้อาการแย่ลง รวมถึงงดนมและผลิตภัณฑ์จากนม เนื่องจากอาจมีภาวะพร่องเอนไซม์แลคเตสชั่วคราวหลังท้องเสีย พยายามรับประกินอาหารช้าๆ ไม่รีบเร่ง และเคี้ยวให้ละเอียดยาแก้ท้องเสีย หรือ ยาแก้ท้องอืด ควรเลือกใช้ตัวไหน? (คำแนะนำจากแพทย์)
ท้องเสีย: การรักษาหลักจะเน้นไปที่ชดเชยน้ำและเกลือแร่ ให้ลำไส้ได้พัก ในบางรายถ้าท้องเสียรุนแรงอาจมีการพิจารณาให้ใช้ยาฆ่าเชื้อ หากสงสัยว่าเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรืออาจใช้ยาที่ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ ซึ่งควรให้อยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์เท่านั้น ห้ามซื้อมากินเอง เพราะเสี่ยงต่อการดื้อยา ถ้าหากไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 วัน ในทางกลับกันมีไข้ มีมูกเลือด หรืออ่อนเพลียมาก ควรรีบมาพบแพทย์ทันทีท้องอืด: จะให้ยาขับลมที่มีส่วนผสมในการช่วยลดแรงตึงผิวของแก๊สในทางเดินอาหาร หรือใช้เอนไซม์ช่วยย่อย
ท้องเสียควรดื่มอะไรทดแทนน้ำและเกลือแร่?
น้ำที่ควรดื่มแทนเกลือแร่ในช่วงท้องเสีย คือ น้ำเปล่าสะอาด หรือผ่านการต้มสุกมาแล้ว หรือทำตามส่วนผสม ดังนี้- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น ปริมาณ 1 ช้อนชา
ท้องอืด ถ่ายเป็นน้ำ อาจไม่ใช่แค่ IBS?
เมื่อเกิดอาการท้องเสียเฉียบพลัน หรือ ถ่ายเหลวเป็นน้ํา กี่วันหาย เป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง แต่หากมีอาการเรื้อรังร่วมกับสัญญาณเตือนอื่น ๆ เช่น กรดไหลย้อน มะเร็งลำไส้ หรือแผลในกระเพาะอาหาร การพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินอย่างเป็นระบบ จะช่วยให้คุณมั่นใจ และเริ่มดูแลลำไส้ของตัวเองได้อย่างตรงจุดคำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถ่ายเป็นน้ำควรกินยาอะไร
ยาที่ควรกินที่สุดตอนถ่ายเป็นน้ำ คือ ยาผงถ่าน ยาหยุดถ่าย และยาฆ่าเชื้อ ที่ควรอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ นอกจากนี้ควรกินเกลือแร่เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำภายในร่างกายท้องอืด แน่นท้องหลังกินยาฆ่าเชื้อ (Antibiotics) เกิดจากอะไร?
อาการท้องอืด แน่นท้อง หรือมี ท้องเสีย ตามมาหลังจากการใช้ยาฆ่าเชื้อ (Antibiotics) เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยมาก ซึ่งมีสาเหตุหลัก ๆ จากการรบกวนจุลินทรีย์ในลำไส้ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่ายาฆ่าเชื้อ ไม่ได้ฆ่าเฉพาะแบคทีเรียร้ายที่เป็นสาเหตุของโรคเท่านั้น แต่ยังฆ่าแบคทีเรียดีจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในลำไส้ด้วย ซึ่งแบคทีเรียดีเหล่านี้มีหน้าที่ช่วยในการย่อยอาหารและการสร้างสมดุลในลำไส้ เมื่อสมดุลถูกทำลาย จะส่งผลให้เกิดอาการ อาหารไม่ย่อย (Dyspepsia) มีแก๊สในลำไส้มากขึ้น ทำให้ เรอ ผายลมบ่อย และ ท้องอืด จนนำไปสู่การ ถ่ายเหลว หรือ ถ่ายเป็นน้ำ ในที่สุดท้องเสียแบบติดเชื้อ กับ ไม่ติดเชื้อ ต่างกันอย่างไร?
ท้องเสียแบบติดเชื้อมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย อาหารเป็นพิษ มีไข้สูง ปวดท้องบิด คลื่นไส้ อาเจียนนำมาก่อน รักษาได้โดยการกินเกลือแร่ อาหารอ่อน และดูแลสุขอนามัย ส่วนท้องเสียแบบไม่ติดเชื้อ สามารถเป็นโรคอื่น ๆ ได้ เช่น IBS ผลข้างเคียงจากยา แพ้อาหาร มีอาการท้องอืด แน่นท้องเรื้อรัง สัมพันธ์กับความเครียดและการใช้ยา จะถ่ายเหลว ท้องผูก ถ่ายบ่อยในตอนเช้า วิธีการรักษา คือ ปรับพฤติกรรมการกิน ใช้ยาควบคุมอาการถ่ายเป็นน้ำจาก "ไวรัสโรต้า" กับ "อาหารเป็นพิษ" ต่างกันอย่างไร?
อาการถ่ายเป็นน้ำ ที่เกิดจากไวรัสโรต้า และอาหารเป็นพิษ จัดเป็นภาวะท้องเสียเฉียบพลัน ที่มีความรุนแรงและต้องเฝ้าระวังภาวะขาดน้ำเหมือนกัน แต่มีข้อแตกต่างกัน ดังนี้ไวรัสโรต้า: เป็นการติดเชื้อไวรัสที่มักพบระบาดในกลุ่มเด็กเล็ก แต่สามารถเกิดในผู้ใหญ่ได้เช่นกัน ผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำรุนแรง และปริมาณมาก มักมีอาเจียนและไข้สูงนำมาก่อน ถ้าถามว่าอาการ ถ่ายเหลวเป็นน้ํา กี่วันหาย มักจะนานกว่า คือประมาณ 5-7 วัน โดยการรักษาเน้นที่การชดเชยเกลือแร่ (ORS) เป็นหลัก เนื่องจากไวรัสไม่มียาฆ่าเชื้อเฉพาะ
อาหารเป็นพิษ: ส่วนใหญ่มักเกิดจากแบคทีเรียหรือสารพิษที่ปนเปื้อนในอาหารที่ไม่ถูกสุขอนามัย โดยอาการจะเกิดขึ้นค่อนข้างเร็วหลังรับประกินอาหารที่ปนเปื้อน ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องบิดอย่างรุนแรง คลื่นไส้อาเจียน และท้องเสียเฉียบพลันเป็นอาการนำ โดยทั่วไปมักหายได้เองภายใน 1-3 วัน หากอาการไม่รุนแรง หากมีอาการรุนแรงหรืออาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทางเดินอาหารเพื่อประเมินว่าจำเป็นต้องใช้ยาฆ่าเชื้อหรือไม่
ศูนย์รักษา: ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 08/08/2025
แพทย์ผู้เขียน
นพ. เกษม แสงหิรัญวัฒนา
ความถนัดเฉพาะทาง
อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหาร





