ท้องอืด จุก แน่นเสียดบ่อย…อาจไม่ใช่แค่กระเพาะ แต่เป็นนิ่วในถุงน้ำดีที่ต้องรักษา!
อาการ ท้องอืด แน่น จุกเสียดหลังกินของทอด เป็นสิ่งที่หลายคนคุ้นเคย จนบางครั้งเราก็เผลอคิดว่า "แค่กระเพาะ" หรือ "แค่ลำไส้แปรปรวน" แล้วปล่อยผ่านไป…
แต่รู้ไหมว่าอาการแบบนี้อาจเป็น “สัญญาณเตือน” ของ นิ่วในถุงน้ำดี—โรคที่พบได้บ่อยในคนวัยทำงานและผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบทานอาหารมัน ๆ
• แน่นท้อง จุกบริเวณใต้ชายโครงขวา หลังมื้ออาหาร
• ท้องอืดง่าย คล้ายอาหารไม่ย่อย โดยเฉพาะหลังทานของมัน ของทอด
• ปวดร้าวไปสะบักขวาหรือกลางหลัง
• คลื่นไส้ อาเจียน โดยไม่มีไข้
• อาการเป็น ๆ หาย ๆ มานาน
หากคุณมีหลายข้อในนี้ร่วมกัน อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อย่างที่คิด
• ปวดท้องขวาบนหลังอาหาร โดยเฉพาะหลังอาหารมื้อเย็น
• ปวดร้าวไปหลังหรือไหล่ขวา
• คลื่นไส้ อาเจียน
• มีไข้ (หากเกิดการอักเสบ)
แม้อาการจะไม่รุนแรงในช่วงแรก แต่หากปล่อยไว้จนมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ถุงน้ำดีอักเสบ นิ่วอุดตันท่อทางเดินน้ำดีหลัก ต้องผ่าตัดฉุกเฉิน
• ผู้ที่มีอาการดังกล่าวข้างต้น
• ผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป
• ผู้ที่ลดน้ำหนักลงรวดเร็ว
• ผู้ป่วยเบาหวาน โรคตับ โรคเลือด
• ผู้ที่ใช้ฮอร์โมนเสริม
• อัลตราซาวนด์ช่องท้อง (Ultrasound) – เห็นก้อนนิ่วในน้ำดีได้ชัดเจน แม่นยำที่สุด
• อาจมีการตรวจเลือด – ดูค่าการทำงานของตับ และอาการอักเสบ กรณีสงสัยถุงน้ำดีอักเสบ
• CT Scan / MRCP – กรณีต้องดูโครงสร้างระบบน้ำดีชัดขึ้น และดูนิ่วในท่อทางเดินน้ำดีหลักร่วมด้วย
ไม่จำเป็นต้องอดอาหารหลายวันหรือเตรียมตัวมาก และสามารถรู้ผลเบื้องต้นได้ในวันเดียว
• ไม่มีอาการ → เฝ้าระวังและปรับพฤติกรรม
• มีอาการรบกวนบ่อย → แนะนำให้ ผ่าตัดนำถุงน้ำดีออก
โดยปัจจุบันใช้วิธี ผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก (Laparoscopic Cholecystectomy) ซึ่งเจ็บน้อย ฟื้นตัวไว และปลอดภัย
• แผลเล็กประมาณ 0.5–1 ซม. (3-4 แผล)
• พักฟื้นสั้น กลับบ้านได้ใน 1–2 วัน
• ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนจากการถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน
หากคุณมีอาการ ท้องอืด จุก แน่นหลังกินของทอด หรืออาหารมื้อใหญ่ เป็นบ่อย ๆ โดยไม่เคยตรวจร่างกายอย่างละเอียด ผมขอแนะนำว่า อย่ามองข้ามว่าเป็นเรื่องเล็ก
นิ่วในถุงน้ำดีหากพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น มักรักษาได้ง่ายและปลอดภัยมาก
แต่ถ้ารอจนปวดรุนแรงหรือถุงน้ำดีอักเสบ อาจต้องรักษาแบบฉุกเฉิน ซึ่งเสี่ยงมากกว่าเดิม
หากคุณไม่แน่ใจว่าอาการของตัวเองเกี่ยวข้องกับถุงน้ำดีหรือไม่ ลองเข้ามาพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับการประเมินอย่างเหมาะสม
ศูนย์ศัลยกรรม
โทร. 0-2265-7777
แต่รู้ไหมว่าอาการแบบนี้อาจเป็น “สัญญาณเตือน” ของ นิ่วในถุงน้ำดี—โรคที่พบได้บ่อยในคนวัยทำงานและผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบทานอาหารมัน ๆ
อาการแน่นท้องแบบไหน ที่ควรระวัง?
ไม่ใช่ทุกอาการแน่นท้องจะเป็นโรคร้าย แต่ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้บ่อย ๆ ควรระวัง• แน่นท้อง จุกบริเวณใต้ชายโครงขวา หลังมื้ออาหาร
• ท้องอืดง่าย คล้ายอาหารไม่ย่อย โดยเฉพาะหลังทานของมัน ของทอด
• ปวดร้าวไปสะบักขวาหรือกลางหลัง
• คลื่นไส้ อาเจียน โดยไม่มีไข้
• อาการเป็น ๆ หาย ๆ มานาน
หากคุณมีหลายข้อในนี้ร่วมกัน อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อย่างที่คิด
ทำไมอาการของนิ่วในถุงน้ำดีถึงคล้ายโรคกระเพาะ?
นิ่วในถุงน้ำดีคือก้อนแข็งที่ก่อตัวจากคอเลสเตอรอลหรือน้ำดีในถุงน้ำดี ซึ่งอยู่บริเวณใกล้กับกระเพาะอาหาร เมื่อมีนิ่ว อาจทำให้การบีบตัวของถุงน้ำดีผิดปกติ ส่งผลให้น้ำดีไหลไม่สะดวก → ระบบย่อยไขมันมีปัญหา → ท้องอืด จุก เสียด และเพราะอาการคล้ายกันมากกับโรคกระเพาะหรือกรดไหลย้อน หลายคนจึงเข้าใจผิดและไม่ได้เข้ารับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องนิ่วในถุงน้ำดีมีอาการยังไง?
นอกจากอาการแน่นท้องหลังอาหาร นิ่วในถุงน้ำดีอาจแสดงอาการเหล่านี้ได้เช่นกัน• ปวดท้องขวาบนหลังอาหาร โดยเฉพาะหลังอาหารมื้อเย็น
• ปวดร้าวไปหลังหรือไหล่ขวา
• คลื่นไส้ อาเจียน
• มีไข้ (หากเกิดการอักเสบ)
แม้อาการจะไม่รุนแรงในช่วงแรก แต่หากปล่อยไว้จนมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ถุงน้ำดีอักเสบ นิ่วอุดตันท่อทางเดินน้ำดีหลัก ต้องผ่าตัดฉุกเฉิน
ใครเสี่ยงมีนิ่วในถุงน้ำดี
• ผู้ที่มีอาการดังกล่าวข้างต้น• ผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป
• ผู้ที่ลดน้ำหนักลงรวดเร็ว
• ผู้ป่วยเบาหวาน โรคตับ โรคเลือด
• ผู้ที่ใช้ฮอร์โมนเสริม
ตรวจอย่างไรถึงรู้ว่าใช่
การตรวจวินิจฉัยนิ่วในถุงน้ำดีไม่ซับซ้อนและไม่เจ็บ โดยแพทย์มักใช้• อัลตราซาวนด์ช่องท้อง (Ultrasound) – เห็นก้อนนิ่วในน้ำดีได้ชัดเจน แม่นยำที่สุด
• อาจมีการตรวจเลือด – ดูค่าการทำงานของตับ และอาการอักเสบ กรณีสงสัยถุงน้ำดีอักเสบ
• CT Scan / MRCP – กรณีต้องดูโครงสร้างระบบน้ำดีชัดขึ้น และดูนิ่วในท่อทางเดินน้ำดีหลักร่วมด้วย
ไม่จำเป็นต้องอดอาหารหลายวันหรือเตรียมตัวมาก และสามารถรู้ผลเบื้องต้นได้ในวันเดียว
ถ้าใช่…จะรักษายังไงให้หาย?
หากตรวจพบว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดี แนวทางรักษาขึ้นกับอาการ• ไม่มีอาการ → เฝ้าระวังและปรับพฤติกรรม
• มีอาการรบกวนบ่อย → แนะนำให้ ผ่าตัดนำถุงน้ำดีออก
โดยปัจจุบันใช้วิธี ผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก (Laparoscopic Cholecystectomy) ซึ่งเจ็บน้อย ฟื้นตัวไว และปลอดภัย
• แผลเล็กประมาณ 0.5–1 ซม. (3-4 แผล)
• พักฟื้นสั้น กลับบ้านได้ใน 1–2 วัน
• ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนจากการถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน
ข้อแนะนำสำคัญจากแพทย์
หากคุณมีอาการ ท้องอืด จุก แน่นหลังกินของทอด หรืออาหารมื้อใหญ่ เป็นบ่อย ๆ โดยไม่เคยตรวจร่างกายอย่างละเอียด ผมขอแนะนำว่า อย่ามองข้ามว่าเป็นเรื่องเล็กนิ่วในถุงน้ำดีหากพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น มักรักษาได้ง่ายและปลอดภัยมาก
แต่ถ้ารอจนปวดรุนแรงหรือถุงน้ำดีอักเสบ อาจต้องรักษาแบบฉุกเฉิน ซึ่งเสี่ยงมากกว่าเดิม
หากคุณไม่แน่ใจว่าอาการของตัวเองเกี่ยวข้องกับถุงน้ำดีหรือไม่ ลองเข้ามาพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับการประเมินอย่างเหมาะสม
ศูนย์ศัลยกรรม
โทร. 0-2265-7777
ศูนย์รักษา: ศูนย์ศัลยกรรม
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 08/08/2025
แพทย์ผู้เขียน
พญ. ชลลดา ครุฑศรี

ความถนัดเฉพาะทาง
ศัลยแพทย์ทั่วไป-เต้านม