ท้องเสียบ่อยเหมือนเรื่องเล็ก แต่อาจเป็นโรคเรื้อรังที่ซ่อนอยู่
คุณเคยมีอาการ “ท้องเสียบ่อย” จนเริ่มชินหรือไม่?
บางคนอาจคิดว่าแค่กินของไม่สะอาด พักผ่อนน้อย หรือเครียด แล้วก็หายไปเอง แต่ถ้าอาการเหล่านี้เกิดซ้ำ ๆ ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ หรือกลายเป็นความผิดปกติที่อยู่กับคุณจนเป็นเรื่องปกติ…นี่อาจไม่ใช่แค่เรื่องเล็กอีกต่อไป ผมอยากชวนคุณมาสังเกตตัวเองใหม่ว่า“ท้องเสียบ่อย” แบบไหน ที่ควรมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหาสาเหตุ
“ท้องเสียบ่อย” แค่ไหนที่ควรเริ่มกังวล?
โดยทั่วไป การถ่ายเหลว 1–2 วัน อาจเกิดจากการติดเชื้อเล็กน้อยหรืออาหารเป็นพิษ แต่หากคุณมีลักษณะเหล่านี้ ควรเริ่มหาสาเหตุเพิ่มเติมครับ- ถ่ายเหลว 3 ครั้งขึ้นไปต่อวัน ต่อเนื่องเกิน 1 สัปดาห์
- มีอาการปวดท้องร่วม ถ่ายแล้วไม่สบายท้อง
- ถ่ายบ่อยจนรบกวนชีวิตประจำวัน
- มีเลือดหรือเมือกปนในอุจจาระ
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- มีประวัติครอบครัวเป็นโรคลำไส้ เช่น มะเร็ง, ลำไส้อักเสบเรื้อรัง
โรคอะไรที่อาจซ่อนอยู่หลังอาการ “ท้องเสียบ่อย”?
การที่ลำไส้ทำงานผิดปกติบ่อย ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องอาหารหรือภูมิแพ้เท่านั้น แต่อาจเกิดจากความผิดปกติของระบบลำไส้โดยตรง เช่นกลุ่มอาการลำไส้แปรปรวน (IBS – Irritable Bowel Syndrome)
อาการมักเป็น ท้องเสียสลับท้องผูก ปวดท้องบ่อย ถ่ายไม่สุด หรือรู้สึกแน่นท้อง
โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD – Inflammatory Bowel Disease)
ผู้ป่วยมักมีอาการ ถ่ายเป็นเลือด ปวดบิด ถ่ายบ่อย และอ่อนเพลีย
โรคนี้ต้องวินิจฉัยอย่างละเอียด และวางแผนการรักษาเฉพาะราย
การติดเชื้อเรื้อรังในลำไส้
แม้รับประทานอาหารปกติแต่ถ่ายเหลวเรื้อรัง ร่างกายดูดซึมไม่ดี
มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะเริ่มต้น
ควรตรวจอะไรบ้าง?
หากมีอาการเข้าข่ายที่กล่าวมา แพทย์อาจแนะนำการตรวจเพิ่มเติม เช่น• ตรวจอุจจาระ: ดูเชื้อ, เมือก, เลือดแฝง หรือสัญญาณการติดเชื้อ
• ตรวจเลือด: ประเมินภาวะขาดน้ำ ขาดธาตุอาหาร รวมถึงการอักเสบติดเชื้อ
• ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy): ตรวจหาความผิดปกติ เช่น แผล ติ่งเนื้อ หรือเนื้องอก
• อัลตราซาวด์ช่องท้อง / เอกซเรย์ / CT scan: เพื่อประกอบการวินิจฉัยโรค
การเลือกวิธีตรวจจะขึ้นกับอาการของแต่ละบุคคลครับ ไม่จำเป็นต้องตรวจทุกอย่าง
แนะนำจากแพทย์ อย่าปล่อยให้ “ชิน” กับอาการที่ผิดปกติ
คนไข้หลายคนที่มาหาเราด้วยอาการท้องเสีย มักตัดสินใจใช้คำว่า “เป็นมานานแล้ว แต่คิดว่าไม่เป็นไร” จนวันหนึ่งร่างกายเริ่มอ่อนเพลีย น้ำหนักลด แล้วจึงตัดสินใจมาตรวจแต่โรคบางอย่าง เช่น ลำไส้อักเสบ หรือมะเร็งลำไส้ ยิ่งรู้เร็ว = ยิ่งรักษาได้ตรงจุดก่อนโรคลุกลามถ้าคุณมีอาการ ท้องเสียบ่อย หรือผิดปกติจากเดิม อย่าชะล่าใจครับ แนะนำให้พบแพทย์เฉพาะทางระบบทางเดินอาหาร เพื่อตรวจวินิจฉัยและวางแผนการดูแลให้เหมาะสมกับคุณ
ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
โทร. 0-2265-7777
ศูนย์รักษา: ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 19/08/2025
แพทย์ผู้เขียน
นพ. วราวุฒิ บูรณวุฒิ

ความถนัดเฉพาะทาง
แพทย์ทางด้านโรคระบบทางเดินอาหาร