“ถ่ายเป็นเลือด”สัญญาณเงียบที่อาจซ่อนโรคร้ายในลำไส้
“คุณเคยถ่ายเป็นเลือดไหมครับ?”
หลายคนอาจตอบว่า “เคยครับ…แต่ไม่มีอาการอะไรอื่นร่วม เลยคิดว่าไม่เป็นอะไร”
ฟังดูไม่น่ากังวลใช่ไหมครับ? แต่นั่นแหละ…คือสิ่งที่ผมอยากให้คุณหยุดคิดสักนิด ก่อนจะปล่อยผ่าน
คำตอบที่มักได้ยินคือ “หมอ…น่าจะเป็นแค่ริดสีดวงใช่ไหมครับ?” ซึ่งก็เข้าใจได้ครับ เพราะริดสีดวงเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยจริง ๆ แต่ในฐานะแพทย์ เราจะไม่หยุดแค่คำว่า “น่าจะ” เพราะยังมีอีกหลายโรคในลำไส้ ที่อาจเริ่มต้นด้วยอาการเดียวกันและถ้าปล่อยไว้โดยไม่ตรวจ อาจลุกลามจนรักษายากขึ้น เช่น
• มะเร็งลำไส้ใหญ่
• ติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ (Polyp)
• ลำไส้อักเสบเรื้อรัง
• เลือดออกจากกระเปาะลำไส้ใหญ่
• แผลในลำไส้ใหญ่ จากการติดเชื้อ หรือภาวะขาดเลือด
ลองสังเกตแบบนี้ดูครับ
• แดงสด → มักมาจากปลายลำไส้ เช่น ริดสีดวง, แผลที่ทวารหนัก หรือลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย
• เลือดปนในอุจจาระ → บ่งบอกถึงความผิดปกติในลำไส้ใหญ่ เช่น ติ่งเนื้อ มะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือเลือดออกจากกระเปาะในลำไส้ใหญ่
• อุจจาระสีดำ มีกลิ่นฉุน → อาจเป็นเลือดที่ไหลจากกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็ก
• เลือดปนเมือก หรือมีหนอง → พบได้ในผู้ป่วยลำไส้อักเสบหรือติดเชื้อรุนแรง
หากคุณไม่แน่ใจว่าเลือดที่เห็นเกิดจากอะไร แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินและตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง
• ตรวจร่างกายทางทวารหนัก → เพื่อดูว่ามีก้อนหรือแผลหรือไม่
• ตรวจอุจจาระ → ตรวจหาเลือดที่มองไม่เห็น หรือการติดเชื้อ
• ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) → ตรวจภายในลำไส้อย่างละเอียด เห็นสาเหตุชัดเจน และสามารถเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อได้
• ตรวจเลือด → ดูภาวะซีด และประเมินการอักเสบหรือการเสียเลือดภายใน
การตรวจแต่ละแบบจะพิจารณาตามอาการและความเสี่ยงของผู้ป่วย คุณไม่จำเป็นต้องตรวจทุกอย่างเสมอไปครับ
• มีเลือดปนในอุจจาระ ไม่ใช่แค่หยดออกทีหลัง
• มีอาการร่วม เช่น อ่อนเพลีย น้ำหนักลด เบื่ออาหาร
• อายุเกิน 45 ปี และไม่เคยตรวจลำไส้ใหญ่มาก่อน
• มีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้
หากคุณมีอาการเหล่านี้ แนะนำให้เข้ารับการตรวจให้เร็วที่สุดครับ เพราะโรคบางอย่าง…ไม่รอให้คุณพร้อม
ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
โทร. 0-2265-7777
หลายคนอาจตอบว่า “เคยครับ…แต่ไม่มีอาการอะไรอื่นร่วม เลยคิดว่าไม่เป็นอะไร”
ฟังดูไม่น่ากังวลใช่ไหมครับ? แต่นั่นแหละ…คือสิ่งที่ผมอยากให้คุณหยุดคิดสักนิด ก่อนจะปล่อยผ่าน
ถ่ายเป็นเลือด ไม่ใช่เรื่องเล็ก ถ้าไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร
เวลาคนไข้มาหาผมด้วยอาการถ่ายเป็นเลือดคำตอบที่มักได้ยินคือ “หมอ…น่าจะเป็นแค่ริดสีดวงใช่ไหมครับ?” ซึ่งก็เข้าใจได้ครับ เพราะริดสีดวงเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยจริง ๆ แต่ในฐานะแพทย์ เราจะไม่หยุดแค่คำว่า “น่าจะ” เพราะยังมีอีกหลายโรคในลำไส้ ที่อาจเริ่มต้นด้วยอาการเดียวกันและถ้าปล่อยไว้โดยไม่ตรวจ อาจลุกลามจนรักษายากขึ้น เช่น
• มะเร็งลำไส้ใหญ่
• ติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ (Polyp)
• ลำไส้อักเสบเรื้อรัง
• เลือดออกจากกระเปาะลำไส้ใหญ่
• แผลในลำไส้ใหญ่ จากการติดเชื้อ หรือภาวะขาดเลือด
เลือดแบบไหน…ไม่ควรมองข้าม?
ลักษณะของเลือดในอุจจาระ สามารถช่วยบอกเบื้องต้นได้ว่าความผิดปกตินั้นน่าจะมาจากตรงไหนลองสังเกตแบบนี้ดูครับ
• แดงสด → มักมาจากปลายลำไส้ เช่น ริดสีดวง, แผลที่ทวารหนัก หรือลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย
• เลือดปนในอุจจาระ → บ่งบอกถึงความผิดปกติในลำไส้ใหญ่ เช่น ติ่งเนื้อ มะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือเลือดออกจากกระเปาะในลำไส้ใหญ่
• อุจจาระสีดำ มีกลิ่นฉุน → อาจเป็นเลือดที่ไหลจากกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็ก
• เลือดปนเมือก หรือมีหนอง → พบได้ในผู้ป่วยลำไส้อักเสบหรือติดเชื้อรุนแรง
หากคุณไม่แน่ใจว่าเลือดที่เห็นเกิดจากอะไร แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินและตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง
อยากรู้ให้ชัด ต้องตรวจให้ตรงจุด
หากมีอาการถ่ายเป็นเลือด การตรวจวินิจฉัยที่เหมาะสมจะช่วยให้เราเข้าใจปัญหาได้เร็วและรักษาได้ตรงจุด โดยแพทย์อาจแนะนำการตรวจดังนี้• ตรวจร่างกายทางทวารหนัก → เพื่อดูว่ามีก้อนหรือแผลหรือไม่
• ตรวจอุจจาระ → ตรวจหาเลือดที่มองไม่เห็น หรือการติดเชื้อ
• ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) → ตรวจภายในลำไส้อย่างละเอียด เห็นสาเหตุชัดเจน และสามารถเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อได้
• ตรวจเลือด → ดูภาวะซีด และประเมินการอักเสบหรือการเสียเลือดภายใน
การตรวจแต่ละแบบจะพิจารณาตามอาการและความเสี่ยงของผู้ป่วย คุณไม่จำเป็นต้องตรวจทุกอย่างเสมอไปครับ
สังเกตอาการแบบนี้ อย่าชะล่าใจ
• ถ่ายเป็นเลือดซ้ำเกิน 1–2 ครั้ง• มีเลือดปนในอุจจาระ ไม่ใช่แค่หยดออกทีหลัง
• มีอาการร่วม เช่น อ่อนเพลีย น้ำหนักลด เบื่ออาหาร
• อายุเกิน 45 ปี และไม่เคยตรวจลำไส้ใหญ่มาก่อน
• มีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้
หากคุณมีอาการเหล่านี้ แนะนำให้เข้ารับการตรวจให้เร็วที่สุดครับ เพราะโรคบางอย่าง…ไม่รอให้คุณพร้อม
สัญญาณเงียบที่ไม่ควรมองข้าม
“ถ่ายเป็นเลือด” อาจไม่ใช่อาการรุนแรงในทันที แต่ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ควรมองข้าม เพราะมันคือสัญญาณเงียบ ที่ร่างกายพยายามบอกว่า…ถึงเวลาใส่ใจลำไส้ของคุณแล้วหรือยัง?อย่ารอให้สายเกินไป
หากคุณมีอาการถ่ายเป็นเลือดไม่ว่าจะเพิ่งเกิดขึ้นหรือเป็นมานาน แนะนำให้พบแพทย์เฉพาะทางระบบทางเดินอาหารเพื่อตรวจให้แน่ใจครับศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
โทร. 0-2265-7777
ศูนย์รักษา: ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 19/08/2025
แพทย์ผู้เขียน
นพ. วราวุฒิ บูรณวุฒิ

ความถนัดเฉพาะทาง
แพทย์ทางด้านโรคระบบทางเดินอาหาร