หลังคลอดยังเจ็บท้อง มดลูกยังไม่เข้าอู่ เกิดจากอะไร?
สำหรับคุณแม่มือใหม่หลายคน หลังจากการคลอดลูกที่แสนยิ่งใหญ่ผ่านพ้นไป สิ่งที่อาจทำให้กังวลใจไม่น้อยคืออาการเจ็บท้องหน่วงๆ ที่ยังคงอยู่ หรือบางครั้งรู้สึกว่าท้องยังไม่ยุบเหมือนเดิม นั่นอาจเป็นสัญญาณว่า "มดลูกยังไม่เข้าอู่" หรือมีการฟื้นตัวที่ช้ากว่าปกติ ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าคุณแม่จะกังวลใจ บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจว่าทำไมอาการเหล่านี้จึงเกิดขึ้น และจะรับมือกับมันได้อย่างไรค่ะ
ในระหว่างตั้งครรภ์ มดลูกของคุณแม่จะขยายขนาดใหญ่ขึ้นมาก เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารกและรก หลังคลอด รกได้คลอดออกมาแล้ว แต่มดลูกยังคงมีขนาดใหญ่ ดังนั้น ร่างกายจึงต้องพยายามหดรัดตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดขนาดลง และปิดเส้นเลือดที่เคยไปเลี้ยงรก เพื่อป้องกันการเสียเลือดมากเกินไป อาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นก็คือสัญญาณของการทำงานที่สำคัญของมดลูกนั่นเองค่ะ
โดยปกติแล้ว มดลูกจะใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ ในการหดตัวกลับสู่ขนาดปกติ แต่ถ้าคุณแม่มีอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณที่ต้องเฝ้าระวัง
อาการเจ็บท้องหลังคลอดเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าอาการเหล่านี้รุนแรง หรือมีสัญญาณผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย ก็ไม่ควรมองข้าม การดูแลตัวเองหลังคลอดอย่างถูกวิธี การพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และที่สำคัญคือ การสังเกตความผิดปกติของร่างกายอยู่เสมอ หากมีข้อสงสัยหรือกังวลใจ อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางทันที เพื่อให้ได้รับการดูแลที่เหมาะสม และสามารถกลับมาแข็งแรงได้อย่างรวดเร็วค่ะ
ศูนย์สุขภาพสตรี
โทร. 0-2265-7777
ทำไมหลังคลอดถึงยังมีอาการเจ็บท้อง?
อาการเจ็บท้องหลังคลอดหรือที่เรียกว่า "เจ็บครรภ์หลัง" (Afterpains) เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันแรกหลังคลอด อาการเจ็บนี้เกิดจากการที่มดลูกกำลังหดรัดตัวเพื่อกลับเข้าสู่ขนาดและตำแหน่งปกติเหมือนก่อนตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นกระบวนการธรรมชาติที่เรียกว่า "มดลูกเข้าอู่" (Uterine Involution)ในระหว่างตั้งครรภ์ มดลูกของคุณแม่จะขยายขนาดใหญ่ขึ้นมาก เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารกและรก หลังคลอด รกได้คลอดออกมาแล้ว แต่มดลูกยังคงมีขนาดใหญ่ ดังนั้น ร่างกายจึงต้องพยายามหดรัดตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดขนาดลง และปิดเส้นเลือดที่เคยไปเลี้ยงรก เพื่อป้องกันการเสียเลือดมากเกินไป อาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นก็คือสัญญาณของการทำงานที่สำคัญของมดลูกนั่นเองค่ะ
อาการแบบไหนที่เรียกว่า "มดลูกยังไม่เข้าอู่" หรือมีปัญหา?
โดยปกติแล้ว มดลูกจะใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ ในการหดตัวกลับสู่ขนาดปกติ แต่ถ้าคุณแม่มีอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณที่ต้องเฝ้าระวัง- ปวดท้องหน่วงๆ หรือปวดบีบๆ ต่อเนื่องนานเกิน 1 สัปดาห์ โดยปกติอาการปวดครรภ์หลังคลอดจะค่อยๆ ดีขึ้นใน 2-3 วันแรก แต่ถ้ายังคงปวดมาก หรือปวดนานผิดปกติ ควรเข้ามาปรึกษาแพทย์
- มีน้ำคาวปลาออกมากผิดปกติ น้ำคาวปลาควรจะค่อยๆ ลดลงและจางลง ถ้ายังคงมีเลือดสดๆ ออกมามาก หรือมีลิ่มเลือดขนาดใหญ่ อาจบ่งชี้ถึงความผิดปกติหลังคลอด
- น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นผิดปกติ โดยปกติแล้วน้ำคาวปลาอาจมีกลิ่นคาวเล็กน้อย แต่หากมีกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรง อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อ
- มีไข้สูง: การมีไข้ร่วมกับอาการปวดท้องและน้ำคาวปลาผิดปกติ เป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
- รู้สึกอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ ซีดเซียว อาจเป็นอาการจากการเสียเลือดมาก หรือมีภาวะโลหิตจาง
- คลำท้องแล้วรู้สึกว่ามดลูกยังแข็งและอยู่สูงกว่าปกติ โดยปกติหลังคลอดมดลูกจะค่อยๆ ลดระดับลงมาเรื่อยๆ จนคลำไม่ได้เหนือหัวหน่าวในสัปดาห์ที่ 2
- หน้าท้องยังคงใหญ่ หรือดูเหมือนตั้งครรภ์อยู่ แม้ว่าหน้าท้องจะไม่ได้ยุบทันทีหลังคลอด แต่หากผ่านไปหลายสัปดาห์แล้วยังดูใหญ่ผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณว่ามดลูกยังไม่เข้าอู่
สาเหตุที่ทำให้มดลูกยังไม่เข้าอู่ หรือฟื้นตัวช้า
- การติดเชื้อในโพรงมดลูก เป็นสาเหตุที่อันตรายที่สุด การติดเชื้ออาจทำให้มดลูกอักเสบ ไม่สามารถหดรัดตัวได้ดี
- มีเศษรกหรือเศษเยื่อหุ้มทารกค้างอยู่ในโพรงมดลูก สิ่งเหล่านี้จะขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก ทำให้ไม่สามารถเข้าอู่ได้เต็มที่ และอาจทำให้เลือดออกมาก
- การคลอดลูกแฝด หรือลูกตัวโตมาก มดลูกจะขยายใหญ่มากเป็นพิเศษ อาจทำให้มดลูกใช้เวลานานขึ้นในการหดตัว
- ภาวะมดลูกหย่อนยานแต่กำเนิด หรือกล้ามเนื้อไม่แข็งแรง ทำให้หดตัวได้ไม่ดี
- จำนวนครั้งของการตั้งครรภ์ คุณแม่ที่เคยคลอดลูกมาหลายคนแล้ว มดลูกอาจจะใช้เวลาในการเข้าอู่นานขึ้น
- การให้นมบุตร จะกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซิน ซึ่งจะช่วยให้มดลูกหดรัดตัวได้ดีขึ้น ดังนั้นคุณแม่ที่ให้นมบุตรมักจะมีอาการปวดท้องหลังคลอดมากกว่า และมดลูกเข้าอู่ได้เร็วกว่า
การวินิจฉัยและการรักษา
หากคุณแม่มีอาการตามที่กล่าวมาข้างต้น และสงสัยว่ามดลูกอาจยังไม่เข้าอู่ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจภายใน และอาจมีการตรวจเพิ่มเติม เช่น- การอัลตราซาวด์ช่องท้อง เพื่อดูสภาพของมดลูก ขนาด และดูว่ามีสิ่งผิดปกติค้างอยู่หรือไม่
- การตรวจเลือด เพื่อดูภาวะซีด หรือสัญญาณการติดเชื้อ
แนวทางการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่พบ
- กรณีติดเชื้อ แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ
- กรณีมีเศษรกค้าง อาจต้องมีการขูดมดลูกเพื่อนำสิ่งแปลกปลอมออก
- กรณีมดลูกหดตัวไม่ดี แพทย์อาจพิจารณาให้ยาที่ช่วยกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
อาการเจ็บท้องหลังคลอดเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าอาการเหล่านี้รุนแรง หรือมีสัญญาณผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย ก็ไม่ควรมองข้าม การดูแลตัวเองหลังคลอดอย่างถูกวิธี การพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และที่สำคัญคือ การสังเกตความผิดปกติของร่างกายอยู่เสมอ หากมีข้อสงสัยหรือกังวลใจ อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางทันที เพื่อให้ได้รับการดูแลที่เหมาะสม และสามารถกลับมาแข็งแรงได้อย่างรวดเร็วค่ะ
ศูนย์สุขภาพสตรี
โทร. 0-2265-7777
ศูนย์รักษา: ศูนย์สุขภาพสตรี
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 26/08/2025
แพทย์ผู้เขียน
พญ. กมลภัทร วิจักขณ์พันธ์

ความถนัดเฉพาะทาง
แพทย์ทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์