อาการแบบไหนที่ควรรีบไปตรวจลำไส้ใหญ่?
แม้อาการผิดปกติของระบบขับถ่ายหลายอย่างอาจไม่รุนแรงในระยะแรก แต่ถ้าเกิดขึ้นบ่อยหรือเรื้อรัง อย่ารอช้า การตรวจลำไส้ใหญ่ตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจช่วยชีวิตคุณได้
ทำไมจึงควรใส่ใจอาการผิดปกติของลำไส้?
ระบบลำไส้ใหญ่มีหน้าที่สำคัญในการดูดซึมน้ำและขับของเสียออกจากร่างกาย แต่หากลำไส้เริ่มมีความผิดปกติ เช่น การอักเสบ การเกิดเนื้องอก หรือภาวะมะเร็ง อาการหลายอย่างจะค่อย ๆ แสดงออกมา ซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่ตรวจ อาจทำให้โรคพัฒนาไปถึงระยะที่ยากต่อการรักษา
อาการที่ควรพิจารณาไปพบแพทย์เพื่อตรวจลำไส้
หากคุณมีอาการต่อไปนี้บ่อย หรือเป็นเรื้อรัง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการตรวจลำไส้ใหญ่โดยเฉพาะ
• ถ่ายเป็นเลือด หรือมีเลือดปนในอุจจาระ โดยเฉพาะหากไม่ได้เกิดจากริดสีดวงทวาร
• รู้สึกถ่ายไม่สุด หรือมีลมในท้องมากผิดปกติ ร่วมกับอาการแน่นท้องบ่อย
• ถ่ายอุจจาระเปลี่ยนแปลงชัดเจน เช่น ท้องผูกสลับท้องเสีย โดยไม่มีสาเหตุ
• อุจจาระมีลักษณะผิดปกติ เช่น มีขนาดเล็กลง หรือรูปร่างเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
• ปวดท้องเรื้อรัง โดยเฉพาะบริเวณด้านล่างซ้ายของช่องท้อง
• น้ำหนักลดผิดปกติ โดยไม่ได้ตั้งใจควบคุมอาหาร
• อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายกว่าปกติ อาจเกิดจากการเสียเลือดเรื้อรังภายใน
ใครบ้างที่ควรตรวจแม้ไม่มีอาการ?
แม้ไม่มีอาการใด ๆ หากคุณอยู่ในกลุ่มต่อไปนี้ แนะนำให้เริ่มตรวจลำไส้ใหญ่ตามช่วงอายุหรือความเสี่ยง
• อายุ 45 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
• มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
• เคยมีประวัติโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง เช่น ลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Ulcerative colitis) หรือโรคโครน (Crohn’s disease)
• มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย รับประทานอาหารแปรรูป
ตรวจคัดกรองไม่เจ็บ…และอาจช่วยชีวิตได้
การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) เป็นการตรวจที่มีความแม่นยำสูง ใช้เพื่อตรวจหาเนื้องอกหรือความผิดปกติก่อนพัฒนาเป็นมะเร็ง โดยแพทย์สามารถตัดชิ้นเนื้อหรือเนื้องอกขนาดเล็กออกได้ทันทีหากพบสิ่งผิดปกติ การตรวจนี้ใช้ยานอนหลับชนิดอ่อน จึงไม่เจ็บ และไม่ควรกังวลเกินไป
ข้อแนะนำจากแพทย์
หากคุณมีอาการเข้าข่ายที่กล่าวมาข้างต้น หรือมีความเสี่ยงด้านพันธุกรรมและพฤติกรรม แนะนำให้ตรวจลำไส้ใหญ่กับแพทย์เฉพาะทางตั้งแต่ยังไม่มีอาการรุนแรง การตรวจเร็วคือกุญแจสำคัญในการป้องกันและรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ตั้งแต่ต้นทาง
ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
โทร. 0-2265-7777
ทำไมจึงควรใส่ใจอาการผิดปกติของลำไส้?
ระบบลำไส้ใหญ่มีหน้าที่สำคัญในการดูดซึมน้ำและขับของเสียออกจากร่างกาย แต่หากลำไส้เริ่มมีความผิดปกติ เช่น การอักเสบ การเกิดเนื้องอก หรือภาวะมะเร็ง อาการหลายอย่างจะค่อย ๆ แสดงออกมา ซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่ตรวจ อาจทำให้โรคพัฒนาไปถึงระยะที่ยากต่อการรักษา
อาการที่ควรพิจารณาไปพบแพทย์เพื่อตรวจลำไส้
หากคุณมีอาการต่อไปนี้บ่อย หรือเป็นเรื้อรัง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการตรวจลำไส้ใหญ่โดยเฉพาะ
• ถ่ายเป็นเลือด หรือมีเลือดปนในอุจจาระ โดยเฉพาะหากไม่ได้เกิดจากริดสีดวงทวาร
• รู้สึกถ่ายไม่สุด หรือมีลมในท้องมากผิดปกติ ร่วมกับอาการแน่นท้องบ่อย
• ถ่ายอุจจาระเปลี่ยนแปลงชัดเจน เช่น ท้องผูกสลับท้องเสีย โดยไม่มีสาเหตุ
• อุจจาระมีลักษณะผิดปกติ เช่น มีขนาดเล็กลง หรือรูปร่างเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
• ปวดท้องเรื้อรัง โดยเฉพาะบริเวณด้านล่างซ้ายของช่องท้อง
• น้ำหนักลดผิดปกติ โดยไม่ได้ตั้งใจควบคุมอาหาร
• อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายกว่าปกติ อาจเกิดจากการเสียเลือดเรื้อรังภายใน
ใครบ้างที่ควรตรวจแม้ไม่มีอาการ?
แม้ไม่มีอาการใด ๆ หากคุณอยู่ในกลุ่มต่อไปนี้ แนะนำให้เริ่มตรวจลำไส้ใหญ่ตามช่วงอายุหรือความเสี่ยง
• อายุ 45 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
• มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
• เคยมีประวัติโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง เช่น ลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Ulcerative colitis) หรือโรคโครน (Crohn’s disease)
• มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย รับประทานอาหารแปรรูป
ตรวจคัดกรองไม่เจ็บ…และอาจช่วยชีวิตได้
การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) เป็นการตรวจที่มีความแม่นยำสูง ใช้เพื่อตรวจหาเนื้องอกหรือความผิดปกติก่อนพัฒนาเป็นมะเร็ง โดยแพทย์สามารถตัดชิ้นเนื้อหรือเนื้องอกขนาดเล็กออกได้ทันทีหากพบสิ่งผิดปกติ การตรวจนี้ใช้ยานอนหลับชนิดอ่อน จึงไม่เจ็บ และไม่ควรกังวลเกินไป
ข้อแนะนำจากแพทย์
หากคุณมีอาการเข้าข่ายที่กล่าวมาข้างต้น หรือมีความเสี่ยงด้านพันธุกรรมและพฤติกรรม แนะนำให้ตรวจลำไส้ใหญ่กับแพทย์เฉพาะทางตั้งแต่ยังไม่มีอาการรุนแรง การตรวจเร็วคือกุญแจสำคัญในการป้องกันและรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ตั้งแต่ต้นทาง
ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
โทร. 0-2265-7777
ศูนย์รักษา: ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
วัน/เดือน/ปี ที่โพสต์: 02/08/2025
แพทย์ผู้เขียน
นพ. ภูริกร เฟื่องวรรธนะ

ความถนัดเฉพาะทาง
แพทย์ทางด้านโรคระบบทางเดินอาหาร